“กลุ่มแบงก์” ทยอยขึ้น XD กลางเม.ย.นี้! SCB-KTB นำทีมยีลด์พุ่งเกิน 5%

กลุ่มธนาคารเตรียมพาเหรดขึ้นเครื่องหมาย XD ช่วงกลางเดือน เม.ย.นี้ เพื่อจ่ายเงินปันผล เผย Dividend yield ยังคงอยู่ระดับสูงจากราคาปิดล่าสุด นำโดย SCB 6.87% และ KTB 5.13% ส่วน KBANK BBL TISCO อยู่ระหว่าง 3.5-6% ด้านโบรกฯ มอง Q1/67 แบงก์ 7 แห่ง กำไรรวมกัน 5.03 หมื่นล้านบาท ยันปีนี้กลุ่มแบงก์ยังมีการจ่ายปันผลที่น่าสนใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับจากกลางเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะทยอยประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิในเงินปันผล) เพื่อจ่ายเงินปันผลของงวดครึ่งหลังปี 2567 และของปี 2567 โดยมีหุ้นแบงก์จำนวน 7 แห่งที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลน่าสนใจ เริ่มจากบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 อีก 7.84 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 6.87% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 114 บาท

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB จ่ายปันผลงวดปี 2566 ที่ 0.868 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) 5.13% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 16.90 บาท

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK จ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 อีก 6 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 4.83% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 124 บาท

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL จ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 อีก 5 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 3.59% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 139 บาท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO จ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 อีก 5.75 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 5.77% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 99.50 บาท

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 อีก 0.055 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 3.02% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 1.82 บาท

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP จ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 อีก 1.75 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 3.31% จากราคาปิดวานนี้ (2 เม.ย.) ที่ 52.75 บาท

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เผยว่า คงน้ำหนักการลงทุนเป็นกลาง (NEUTRAL) สำหรับกลุ่มธนาคาร โดยคาดวันที่ 17-19 เม.ย. 2567 กลุ่มธนาคาร 7 แห่งที่ฝ่ายวิจัยฯ ศึกษา รายงานกำไรสุทธิรวมกันที่ 5.03 หมื่นล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) จากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อเฉลี่ย (Yield on Loans) ตามทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น

ขณะที่ กำไรเพิ่มขึ้น 18% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพราะการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ตามปัจจัยฤดูกาล และการลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) จากไตรมาส 4/2566 มีการตั้งสำรองก้อนใหญ่ของ KTB สำหรับลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่ง และ TTB สำหรับความไม่แน่นอนในอนาคต สำหรับสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 0.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทรงตัวเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา หรือคิดเป็นทรงตัวจากต้นปี (YTD) จากธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นในทุกกลุ่ม

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio อยู่ที่ 3.87% เพิ่มจากไตรมาส 4/2566 ที่ 3.59% จากการตกชั้นของลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่ง คาดคือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD อย่างไรก็ตามธนาคารยังมีความแข็งแกร่งในด้านความเพียงพอเรื่องการตั้งสำรองต่อพอร์ต Coverage Ratio ที่ 173% ใกล้กับไตรมาส 4/2566 ที่ 186%

ทั้งนี้ คาดธนาคารรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 เติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า คือ BBL ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท (เติบโต 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 20% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา), KBANK 1.08 หมื่นล้านบาท (เติบโต 1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 15% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา) และ TTB 5.35 พันล้านบาท (เติบโต 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 10% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา)

โดยธนาคารรายงานกำไรสุทธิทรงตัวเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ SCB ที่ 1.10 หมื่นล้านบาท ส่วนธนาคารที่รายงานกำไรสุทธิลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ KTB ที่ 9.98 พันล้านบาท (ลดลง 1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 63% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา)

ขณะที่ KKP อยู่ที่ 900 ล้านบาท (ลดลง 57% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 34% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา) ขณะที่ธนาคารรายงานกำไรสุทธิลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ TISCO อยู่ที่ 1.72 พันล้านบาท (ลดลง 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 3% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา)

ในส่วนของภาพรวมกำไรสุทธิในปี 2567 คาดที่ 2.05 แสนล้านบาท เติบโต 5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย (NII) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ลดลงจากปี 2566 มีการตั้งค่าใช้จ่ายสำรองก้อนใหญ่ของ KBANK, KTB, SCB และ TTB

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารมีปันผลที่น่าสนใจสำหรับปี 2567 มี Dividend yield คาดที่ 3-9% ต่อปี โดยชอบธนาคารขนาดกลางใหญ่ ชอบมากสุดคือ TTB ตามด้วย KTB, BBL, KBANK และ SCB มากกว่าธนาคารขนาดเล็ก

Back to top button