COM7 ปักหมุดปี 67 ขยายเพิ่ม 70 สาขา หนุนยอดขายโต 10%

COM7 กางแผนปี 67 รุกขยายสาขาหน้าร้านเพิ่ม 70 สาขา ทั้งธุรกิจสมาร์ทโฟน (BaNANA Store) ธุรกิจรถอีวี (AION) พ่วงควบคุมต้นทุนดอกเบี้ยให้มีประสิทธิภาพ ดันยอดขายรวมปี 67 เติบโต 10% ตามแผน


นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 24 พ.ค. 67 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 822 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 874 ล้านบาท

โดยการลดลงของกำไรสุทธิมีสาเหตุมาจากอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.7% ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4/66 ที่เท่ากับ 11.6% แม้ว่าอัตรากำไรขั้นตันมีสัญญาณเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นตันสูงโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smartphone ระบบ Android แต่เนื่องจากยังคงต้องมีการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้า

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ใกล้เคียงกับปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ในเรื่องของค่าใช้จ่ายต้นทุนทางการเงิน เนื่องจากสถานการณ์ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ที่กระทบต่อการดำเนินงาน ทำให้บริษัทฯ มาใช้สินเชื่อหมุนเวียนระยะสั้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ โดยหลักจะใช้สินเชื่อไปกับการสำรองสินค้าคงคลัง เพื่อให้เพียงพอต่อการขายและการเติบโต

“ในไตรมาส 1/67 บริษัทฯ ได้มีการเข้าไปบริหารสินค้าสต๊อกมากขึ้น ส่งผลให้สามารถลดมูลค่าสต๊อกสินค้าลง จากปลายปีที่ผ่านมาไปกว่า 866 ล้านบาท โดย Inventory days ในไตรมา 1/67 ลดลงมาเหลือ 51 วัน (จาก 53 วันในไตรมาส 4/66) สะท้อนการจัดการสต๊อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัทฯ ก็ยังมุ่งมั่นจัดการต่อไป เพื่อให้ปีนี้สามารถควบคุมสถาการณ์ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยดังกล่าวได้นายณรงค์ กล่าว

ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้น 12% มาอยู่ที่ 19,279 ล้านบาท เป็นผลจากยอดขายสินค้าเกือบกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดย กลุ่มสมาร์ทโฟน มียอดขายอันดับ 1 เติบโตสูงสุด 17%, อุปกรณ์เสริมด้านไอที (Accessories) เพิ่มขึ้น 1%, อุปกรณ์ไอที (IT Product) เพิ่มขึ้น 2%และรายได้อื่นๆ ขยายตัว 5% แม้ยอดขายแท็บเล็ต ลดลง 15%

โดยกลุ่มสมาร์ทโฟน สามารถสร้างยอดขายสูงสุด ซึ่งสัดส่วนคิดเป็น 62% เมื่อเทียบกับยอดขายรวม เพิ่มขึ้นจาก 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายแท็บเล็ตที่ลดลง รวมถึงสมาร์ทโฟนเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาด โดยในไตรมาสนี้ 1/67 ยอดคำสั่งซื้อสมาร์ทโฟนของบริษัทฯ เติบโตได้ถึง 17% เมื่อเทียบตลาดมือถือในไทยที่เติบโตเพียง 2%

ส่วนธุรกิจ UFUND โครงการผ่อนสินค้าไอทีที่มุ่งพัฒนาสินเชื่อสมาร์ทโฟน ด้วยการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ซึ่งบริษัทฯ มีการพัฒนาขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าบุคคลทั่วไปมากขึ้น (จากเดิมกลุ่มนักศึกษา) โดยร่วมกับ Apple พาร์ทเนอร์หลักจัดทำโปรโมชั่นด้านราคาดึงดูดลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการด้านการซื้อขายสมาร์ทโฟนมือสอง ผ่าน BaNANA SURE STORE โดยครึ่งปีที่ผ่านมา (ไตรมาส 3-4/66) ได้เปิดไปแล้ว 6 สาขา และในไตรมาส 1/67 ได้เปิดไปแล้วอีก 4 สาขา โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 67 บริษัทฯ จะเพิ่มสาขาให้ถึง 50 สาขาทั่วประเทศ และคาดการณ์ยอดขายจะเติบโตสู่ระดับ 300 ล้านบาท ภายในปีนี้ พร้อมขยายช่องทางขายจากหน้าร้านสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้น ผ่านแอพพลิเคชั่น “BaNANA SURE” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ ANDROID

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขารวมทั้งหมด 1,354 สาขา แบ่งออกเป็น กลุ่มร้านมัลติโปรดักซ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ รวมแฟรนไชน์ จำนวน 739 สาขา , โมโนแบรนด์ จำนวน 227 สาขา และกลุ่มร้านอุปกรณ์เสริมด้านไอทีและธุรกิจอื่นๆที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนจำนวน 388 สาขา โดยมีสาขารวมอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล สัดส่วน 23% และมีสาขาอยู่ต่างจังหวัด สัดส่วน 77% โดยบริษัทฯ มีสาขาครอบคลุมถึง 76 จังหวัด เหลือเพียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่กำลังศึกษาการเข้าไปลงทุน

นายณรงค์ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 67 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะเปิดสาขา (หักลบสาขาที่ปิด) เพิ่มขึ้นอีก 70 สาขาทั่วประเทศ และขยายหน้าร้าน BaNANA ผู้จัดจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ไอทีครบวงจร ในรูปแบบ Stand Alone (ไม่ได้ขึ้นอยู่กับห้างสรรพสินค้า) เพิ่มขึ้นอีก 20 สาขา ส่วนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (AION) คาดการณ์ว่าจะเปิดบริการเพิ่มขึ้นอีก 6 สาขา พร้อมคาดการณ์ว่าในงาน Motor Expo จะทยอยออกรถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเพิ่มโอกาสและการขยายธุรกิจ ตลอดจนการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างใประสิทธิภาพนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะสามารถผลักดันยอดขายรวม (Total Sales) ให้เติบโตถึง 10% ภายในปี 67 ตามเป้าหมายที่วางไว้

สรุปข้อมูลสำคัญของบริษัทจดทะเบียนตามรอบบัญชี (Company Snapshot)

Back to top button