เปิดโผ 14 หุ้นราคาพุ่งเกิน 50% รอบ 5 เดือน! SRICHA ทะยานสุด 90%

เปิดโผ 14 หุ้นราคาพุ่งเกิน 50% ในรอบ 5 เดือน SRICHA ทะยานสุด 90.08% รองลงมาคือ “TPOLY- PORT- WPH-NSL” พร้อมลุ้นผลงานครึ่งหลังปีนี้โตเด่น


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัทจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ปรับตัวขึ้นแรงในรอบ 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.67) โดยเปรียบเทียบข้อมูลราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.66-31 พ.ค.67 พบว่ามี 14 หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นเกิน 50% ตามตารางประกอบดังนี้

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดกลายเป็น บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SRICHA โดยในวันที่ 31 พ.ค.67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 10.30 บาท ปรับตัวขึ้น 5.10 บาท หรือ 90.08% จากระดับ 5.20 บาท ณ ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค.66 ส่วนหนึ่งรับปัจจัยมาจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยในไตรมาส 1/67 SRICHA มีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 778.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 460.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 144.99% เนื่องจากมีโครงการใหม่ รวมถึงมีปริมาณงานเพิ่มจากโครงการเดิมและมีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 79.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.31% เนื่องจากบริษัทย่อยและสาขามีปริมาณเพิ่มขึ้น

โดยส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิจำนวน 298.17 ล้านบาท ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 36.50 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา SRICHA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญารับเหมาก่อสร้างจากกิจการร่วมค้า Petrofac-Samsung-Saipem โครงการ CFP ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP โดยมีมูลค่างานเริ่มต้นที่ 3,260 ล้านบาท และสามารถรับรู้รายได้ทันที จึงเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันรายได้ในไตรมาส 1/67 ให้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งโครงการดังกล่าวไม่เพียงส่งผลแค่รายได้ในไตรมาส 1/67 เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อภาพรวมของบริษัทฯ ในปี 67-68 อีกด้วย

บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY โดยในวันที่ 31 พ.ค.67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.19 บาท ปรับตัวขึ้น 0.57 บาท หรือ 91.94% จากระดับ 0.62 บาท ณ ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค.66  โดยราคาหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดว่าจากปัจจัยบวกในการรับงานโครงการใหม่ของบริษัทฯ โดยในไตรมาส 1/67 บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างใหม่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม นครสวรรค์ ซึ่งประกอบ งานโครงสร้าง สถาปัตยกรรม และ Hardscape ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ จำกัด มูลค่าโครงการ 379.50 ล้านบาท

นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนยังมีการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังรัฐบาลแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยครม. เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี 68 จำนวน 3,752,700 ล้านบาท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบาทวิเคราะห์ว่า เชื่อว่าโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ของภาครัฐ จะถูกเร่งดำเนินการ ซึ่งถือเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง

บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT โดยในวันที่ 31 พ.ค.67 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 2.02บาท ปรับตัวขึ้น 0.96 บาท หรือ 90.57% จากระดับ 1.06 บาท ณ ราคาปิดตลาดวันที่ 28 ธ.ค.66 โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นคาดว่าเป็นผลมาจากปัจจัยบวกในเรื่องของค่าระวางเรือโลก World Container Index World Container Index ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยปรับตัวขึ้น 7 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น 12% เทียบกับสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 4,716 เหรียญต่อ 40 ft และปรับขึ้นต่อเกือบทุกเส้นทางเรือ

ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 10.39 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 10.05 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากแนวโน้มค่าระวางเรือโลกที่เพิ่มขึ้น

บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH โดยในวันที่ 31 พ.ค.67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 12.70 บาท ปรับตัวขึ้น 5.85 บาท หรือ 85.40% จากระดับ 6.85 บาท ณ ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค.66 ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ได้ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดการณ์ว่าแนวโน้มรายได้จะเติบโตดีรายไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3/67 โดยมาจากปัจจัย ดังนี้ 1) การเติบโตของผู้ป่วยในประเทศจากโรคประจำฤดูฝน 2) ขยาย ICU เพิ่มขึ้นอีก 60% ในโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง และเพิ่มจำนวนเตียงจาก 59 เป็น 96 เตียง ในโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง

3) ช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 4 จะเป็น High season ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 4) ทยอยคืนหนี้ ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายจะลดลง 30-40% โดยช่วยหนุนอัตรากำไรดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริหารมีการปรับโดยปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้เป็นโตมากกว่า 30% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 25%

บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL โดยในวันที่ 31 พ.ค.67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 33.00 บาท ปรับตัวขึ้น 14.50 บาท หรือ 78.38% จากระดับ 18.50 บาท ณ ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค.66 ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่าคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง และอัตรากำไรขั้นต้นที่คงที่

ประกอบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่เหมาะสมประมาณ 60-70% ตั้งแต่ไตรมาส 1/67 (จากประมาณ 57% ในปี 66) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประสิทธิภาพต้นทุนที่ดีขึ้นทั้งในกระบวนการผลิตและการจัดจำหน่าย แม้ว่ารายได้จากการส่งออกจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่การเติบโตของธุรกิจเบเกอรี่หลักของ NSL ยังคงน่าดึงดูดใจ ดังนั้นน จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสำหรับปี 67-68 ขึ้น 11-12%

Back to top button