“สุเชษฐ์” มองแนวต้านดัชนี 1,176 จุด แนะจับตา 9 หุ้นเด่น-ประชุมกนง.พรุ่งนี้

“สุเชษฐ์” ประเมิน SET มีแนวโน้มฟื้นตัว จับตาหุ้นเด่นกลุ่มการเงิน-ค้าปลีก พร้อมมองผลประชุม กนง. หากลดดอกเบี้ย หนุนตลาดหุ้นระยะสั้น


นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ประเมินแนวรับที่ 1,150 และ 1,140 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,160 และ 1,176 จุด พร้อมแนะนำจุดตัดขาดทุนที่ 1,140 จุด ทั้งนี้ ประเมินว่ามีโอกาสที่ SET จะสามารถปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,200 จุดได้ในระยะถัดไป

สำหรับหุ้นในกลุ่ม TESGX ที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ในกลุ่มเกษตร, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ในกลุ่มโรงไฟฟ้า และบริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ในกลุ่มโรงพยาบาล

สำหรับหุ้นรายตัวที่น่าสนใจ ได้แก่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ซึ่งแนะนำถือหรือซื้อระยะสั้น โดยเน้นยืนแนวรับที่ 1.76/1.74 บาท และมีแนวต้านที่ 1.79/1.81/1.85 บาท พร้อมตัดขาดทุนหากหลุด 1.74 บาท ขณะที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แนะนำถือหรือเล่นรอบ โดยมีแนวรับที่ 50/49 บาท และแนวต้านที่ 52/54 บาท พร้อมตัดขาดทุนที่ 49 บาท

ด้าน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แนะนำหากมีหุ้นให้ถือต่อหรือลงทุนเพิ่ม โดยคาดมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 13.80 และ 14.40-14.50 บาท สำหรับผู้ที่ยังไม่มีหุ้น แนะนำซื้อระยะสั้น โดยเน้นยืนแนวรับที่ 13.50/13.10 บาท พร้อมตัดขาดทุนหากหลุด 13.10 บาท ส่วน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แนะนำซื้อระยะสั้น โดยเน้นแนวรับที่ 152.50/150 บาท และมีแนวต้านที่ 155.50/157 บาท พร้อมตัดขาดทุนที่ 150 บาท ขณะที่ บริษัท เน็กซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP แนะนำถือหรือซื้อระยะสั้น โดยเน้นแนวรับที่ 2.60/2.46 บาท และแนวต้านที่ 2.90/3 บาท พร้อมตัดขาดทุนที่ 2.46 บาท

ในส่วนของปัจจัยเศรษฐกิจ นายสุเชษฐ์ ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้น แต่คาดว่าจะเป็นการฟื้นตัวในระยะสั้นมากกว่าระยะยาว

Back to top button