
“กสิกร” แนะซื้อ GULF เป้า 61 บาท ลุ้นกำไร Q1 โตแกร่ง 6 พันล้าน รับ COD โรงไฟฟ้าต่อเนื่อง
“บล.กสิกรไทย” ประเมินกำไรปกติ GULF ไตรมาส 1/68 โต 26% จากการเดินเครื่องโครงการใหม่หลายแห่ง พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 61 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ระดับ 6,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการเติบโตดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการสำคัญ ได้แก่ GPD ยูนิต 3-4 กำลังการผลิตรวม 1.3 GW, HKP ยูนิต 2 ขนาด 770 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 5 แห่งรวม 585 MW
นอกจากนี้ยังประเมินว่ากำไรจากบริษัทร่วมจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และผลขาดทุนจากโครงการ Jackson ที่ลดลง ขณะที่ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 100 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 44% จากปีก่อน และ 24% จากไตรมาสก่อน
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2568 ประเมินว่าผลประกอบการจะเติบโตเพียงเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าประเภท SPP ที่ดีขึ้นตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง อย่างไรก็ตาม มองว่าครึ่งหลังของปี 2568 จะเป็นช่วงที่ GULF เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการเริ่ม COD ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 7 แห่ง รวมกำลังผลิต 700 MW รวมถึงศูนย์ข้อมูล (Data Center) ขนาด 25 MW และการบริหารต้นทุนผ่านการนำเข้า LNG
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น GULF โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 61.00 บาท อิงตามวิธี SOTP และอัตราคิดลด (WACC) ที่ 4.4% โดยปัจจุบัน GULF ซื้อขายอยู่ที่ระดับ PER และ PBV ปี 2568 ที่ 29 เท่า และ 2 เท่าตามลำดับ ขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 2%