“ไทย–กัมพูชา” จับมือบริหารทรัพยากรน้ำ แก้ปัญหา “ภัยแล้ง” ข้ามพรมแดน

“ประเสริฐ” หารือ “รมว.ทรัพยากรน้ำฯกัมพูชา” ยกระดับความร่วมมือการจัดการทรัพยากรน้ำข้ามพรมแดน ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (15 พ.ค.68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงกรณีที่ ฯพณฯ ธาว เชตฐา (H.E. Mr. Thor Chetha) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและคณะเข้าเยี่ยมคารวะและประชุมหารือความร่วมมือทวิภาคีด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568

โดยการพบกันครั้งนี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือผ่านการจัดทำ MOU เป็นกลไกและกรอบในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรน้ำข้ามพรมแดน การแลกเปลี่ยนทางวิชาการและองค์ความรู้ รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถนำมาปรับใช้ในบริบทของสองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การทำฝนเทียม การบริหารจัดการทะเลสาบ และการพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการข้อมูลและสารสนเทศด้านน้ำ นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการประหยัดน้ำการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้การต้อนรับ กล่าวว่า การประชุมหารือความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาในครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องจากประเทศกัมพูชามีความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยจึงมีความประสงค์หารือแนวทางพัฒนาความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างไทย – กัมพูชา

โดยประสงค์จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ สทนช. เพื่อความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างทันท่วงที รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการบูรณาการข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำ

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมหารือประเด็นการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดน ในพื้นที่ลุ่มน้ำโตนเลสาบของไทยและกัมพูชา ซึ่งได้มีการดำเนินโครงการบริหารจัดการอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่ชายแดน (9C-9T) ซึ่งเป็นลุ่มน้ำย่อยของลุ่มน้ำโตนเลสาบ บริเวณจังหวัดสระแก้วและจันทบุรี ของไทย และจังหวัดบันเตียเมียนเจย พระตะบองและไพลิน ของกัมพูชา ภายใต้กรอบความร่วมมือของ MRC มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561

โดยมุ่งพัฒนาการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอุทกภัยและภัยแล้งข้ามพรมแดนให้มีประสิทธิภาพ ลดความเสื่อมโทรมของลุ่มน้ำ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชาได้ร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้กรอบ MRC ในหลายมิติ การมาเยือนประเทศไทยและหารือร่วมกันในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านน้ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของลุ่มน้ำและชุมชนในพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ อันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคอีกด้วย

Back to top button