
CGSI มอง SET วันนี้ 1,185-1,215 จุด แนะลงทุน STECON- KLINIQ เด่น
CGSI คาด SET มีโอกาส technical rebound ในวันนี้หลังปรับตัวลดลงแรง มองกรอบ 1,185 – 1,215 จุด และ มีโอกาสทดสอบ 1,200 จุด พร้อมแนะนำลงทุน STECON- KLINIQ เด่น
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกได้ทั้งดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.7%, S&P500 เพิ่มขึ้น 0.4%, NASDAQ100 เพิ่มขึ้น 0.1% และ Russel2000 เพิ่มขึ้น 0.5% หลังรายงายตัวเลขดัชนี PPI หรือ Producer Price Index ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในเดือนเม.ย. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของตลาด
ภาพดังกล่าวยังสะท้อนถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 2 ปี และ 10 ปี ที่ลดลงสู่ระดับ 3.9% และ 4.4% ตามลำดับ หลังแรงกดดันของเงินเฟ้อสหรัฐฯเริ่มลดระดับลง
อย่างไรก็ดี ประธานเฟด หรือ นายเจอโรม พาวเวลล์ ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงตัวเลขเงินเฟ้อ และ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ายังมีความไม่แน่นอนสูง และ อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าที่คาด ทำให้ราคาทองคำ (-0.1%) แม้จะรีบาวด์ตามสินทรัพย์เสี่ยงได้ในเมื่อคืนที่ผ่านมาแต่ก็ปรับตัวลดลง
โดยคาดว่า SET Index มีโอกาส technical rebound ในวันนี้หลังปรับตัวลดลงแรงในเมื่อวานที่ผ่านมาจากแรงขายหุ้นใหญ่เฉพาะตัว (AOT) และ ตัวเลข PPI สหรัฐฯที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ดังนั้น วันนี้ทางฝ่ายวิจัยมองกรอบ 1,185 – 1,215 จุด และ มีโอกาสทดสอบ 1,200 จุด
สำหรับรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 มีดังนี้
บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 1.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.9% จากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับที่เราและ Bloomberg Consensus คาด
บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 13.2 ล้านบาท ลดลง 79.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าที่เราและ Bloomberg Consensus คาด 85% / 79% จากการขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ทางการเงิน, รายได้จากที่อยู่อาศัยต่ำกว่าคาด และส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าที่สูงกว่าคาด
โดยหุ้นแนะนำ มีดังนี้
บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 342 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 12 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ2,248 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2568
โดยสูงกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยและ Bloomberg Consensus คาด 28% / 34% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด จึงส่งผลให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568-2570 ขึ้น 4-10%
มองว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2568 จะดีขึ้น เนื่องจากบริษัทแจ้งว่าได้รับงานภาคเอกชนมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่างานภาครัฐ (Take profit : 7.20 / Stop loss : 6.85)
บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ มีกําไรสุทธิ 85 ล้านบาทในไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้น13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 14% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่า Bloomberg consensus 7% โดยมียอดขายสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 13.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดย KLINIQ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่ม 10 สาขาในปี 2568 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 17 สาขา (Take profit : 25.25 / Stop loss : 24.10 )