
SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตาเจรจาการค้า–GDP ไทย Q1 ชู GULF–SCC–WHA หุ้นเด่น
บล.กรุงศรี ชี้หุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวกรอบ 1,165-1,230 จุด จับตาเจรจาการค้า-GDP ไทย ไตรมาส 1/68 ชูหุ้นเด่น GULF-SCC-WHA รับปัจจัยบวกรายตัว
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานกลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์ (19–23 พฤษภาคม 2568) จากบทวิเคราะห์โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในกรอบ 1,165–1,230 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,185 และ 1,165 จุด และแนวต้านที่ 1,205 และ 1,230 จุด ตามลำดับ
โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ในประเทศ การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2568 ของไทย ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัวราว 2.9% จากปีก่อนหน้า, การประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังจากฝ่ายไทยได้ส่งข้อเสนอเบื้องต้นไปแล้ว
ส่วนต่างประเทศติดตามความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ยังคงเป็นประเด็นหลัก หลังจากสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่อนปรนภาษีชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน พร้อมแสดงท่าทีเดินหน้าเจรจาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งคาดว่าอาจนำไปสู่ข้อตกลงในระยะยาว และมีความคืบหน้าเพิ่มเติมกับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ เช่น สหราชอาณาจักร และไทย
สำหรับปัจจัยในฝั่งสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามเพิ่มเติม ได้แก่ การแถลงของกรรมการ FOMC, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนพฤษภาคม, ยอดขายบ้านมือสองและบ้านใหม่เดือนเมษายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ในขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นจะมีการประกาศ Flash PMI เดือนพฤษภาคม และรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายน ส่วนจีนเตรียมประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประจำเดือนพฤษภาคม
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน: KSS ประเมินว่าแรงหนุนหลักยังคงอยู่ที่พัฒนาการเชิงบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงข้อเสนอของไทยที่ส่งให้สหรัฐฯ ซึ่งเริ่มมีสัญญาณตอบรับเชิงบวก จึงยังมีความหวังว่าไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศคู่ค้าอื่น
กลุ่มหุ้นเด่นประจำสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่ม Reopening Trade เช่น เทคโนโลยีเกษตร, China Plays และนิคมอุตสาหกรรม
ส่วนหุ้นที่มีความเสี่ยงด้าน Downside ต่ำ แต่มีโอกาสสร้าง Positive Surprise ได้แก่ หุ้นโรงไฟฟ้า, หุ้นเช่าซื้อ และหุ้นหนี้สูง (High Yield) ซึ่งได้ประโยชน์จากบรรยากาศการผ่อนคลายมาตรการกีดกันการค้า
ด้านหุ้นเด่นเฉพาะตัว ได้แก่ GULF, SCC, WHA โดย GULF แนะนำราคาเป้าหมาย 56.5 บาท โดย Yield มีโอกาสอ่อนลงตามภาพเงินเฟ้อสหรัฐฯ ระยะสั้น และเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวทางรัฐบาลไทยในการเจรจากับสหรัฐฯ
ส่วน SCC แนะนำราคาเป้าหมาย 210 บาท คาดว่าจะได้แรงหนุนจากพัฒนาการหารือทางการค้าระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น และ WHA ราคาเป้าหมาย 6.4 บาท ติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และไทย หนุนแนวโน้มเชิงบวกของหุ้น