
“ฐกฤต” แนะลงทุน 4 ธีมเด่น ชู ADVANC-GULF พื้นฐานแกร่ง
“ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์” มองแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ฟื้นตัว รับปัจจัยหนุน S&P คงเครดิตเรตติ้งไทยระดับ BBB+ และ พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ผ่านวาระแรก โบรกแนะนำลงทุน 4 กลุ่มเด่น อาทิ ADVANC-CPALL-CENTEL-GULF มองพื้นฐานหุ้นแข็งแกร่ง
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ถึงมุมมองตลาดหุ้นไทย (4 มิถุนายน 2568) คาดว่าแนวโน้มดัชนี SET Index สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” เนื่องมาจากปัจจัยกดดัน MSCI Rebalance ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย ซึ่งสะท้อนมาในราคาหุ้นที่ถูกปรับลดน้ำหนักมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวหนุนดัชนี
นอกจากนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีปัจจัยหนุนหลัง S&P Global Ratings ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทยระดับ BBB+ พร้อมมุมมอง “มีเสถียรภาพ”
รวมไปถึง ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ได้รับความเห็นชอบในวาระแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวจากแรงกดดันในสัปดาห์ก่อน
สำหรับมุมมองในระยะกลาง ประเมินว่า แม้ในช่วงเดือนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงประมาณ 4% สวนทางกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ฟื้นตัว แต่ในภาพรวมแล้วดัชนียังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ถือว่ามีมูลค่า (Value Zone) หรืออยู่ในโซนล่างเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน
ทั้งนี้ปัจจัยบวกที่น่าสนใจ คือ การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 จุด ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) รวมถึงตลาดหุ้นไทย
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังมีความหวังว่าอาจเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะกลายเป็นปัจจัยหนุน (Upside) ให้กับตลาดหุ้นไทยในระดับประมาณ 40-50 จุด
ในส่วนของเงื่อนไขที่อาจเอื้อต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า ขึ้นอยู่กับมุมมองภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งต้องยอมรับว่าขณะนี้ความเสี่ยงในฝั่งขาลงของเศรษฐกิจไทยเริ่มมีแนวโน้มจำกัดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้ายังคงเป็นแรงกดดันต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก ซึ่งสะท้อนผ่านการชะลอตัวของภาคการผลิตทั้งในจีนและสหรัฐฯ และแน่นอนว่าไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากภาวะนี้เช่นกัน
ดังนั้น หากเศรษฐกิจไทยยังคงแสดงสัญญาณชะลอตัว ประกอบกับทิศทางเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ก็จะเป็นปัจจัยเอื้อต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในระยะข้างหน้า สำหรับในสัปดาห์นี้ ต้องจับตาดู ตัวเลขเงินเฟ้อ โดยประมาณการว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจติดลบในระดับ -0.8% ซึ่งหากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ย
อีกหนึ่งสัญญาณที่นักวิเคราะห์ใช้ในการประเมิน คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ระยะสั้น (Bond Yield) โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 1 ปี ซึ่งถือเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) สำคัญล่าสุด อยู่ที่ประมาณ 1.52% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าดอกเบี้ยจะลงจากมุมมองนักลงทุนต่างชาติ
ส่วนกลุย์การลงทุนท่ามกลางปัจจัยกดดันการพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สงครามการค้า ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง อยู่ในระดับราคาต่ำหรือถูกกดดันมาแล้วมากพอสมควร ซึ่งมีโอกาสฟื้นตัวได้ในระยะต่อไป โดยแนะนำ 3 กลุ่มหลัก
1.กลุ่ม ICT แนะนำ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC มองว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และแม้จะถูกลดน้ำหนักในดัชนี MSCI แต่มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว นอกจากนี้ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยังช่วยหนุนความต้องการใช้บริการโทรคมนาคม
2.กลุ่มค้าปลีก แนะนำ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL หลังถูกกดดันจากหลายปัจจัย รวมถึงการลดน้ำหนัก MSCI แต่ฝ่ายวิเคราะห์มองว่า CPALL ยังคงมีพื้นฐานดี และราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ราคาเป้าหมายที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินอยู่ที่ 80 บาท
3.กลุ่มโรงแรม แนะนำ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL (หุ้นเด่นของกลุ่ม) จากปัจจัยหนุนข้อมูลล่าสุดช่วงวันที่ 26 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 24% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และนักท่องเที่ยวจีนกลับมาอยู่ที่ระดับประมาณ 76,000 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหว
นอกจากนี้แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ซึ่งมีปัจจัยหนุนจาก แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่า และทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มลดลง เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อีกทั้งลักษณะของธุรกิจเป็น Defensive Stock