
“พบชัย” ชี้ SET ฟื้นตัวจำกัด แนะโฟกัส 4 ปัจจัยในประเทศ เลือกเก็งกำไร 5 หุ้นเด่น
“พบชัย ภัทราวิชญ์” บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ชี้แนวโน้ม SET ขยับขึ้นได้ในกรอบ 1,136–1,150 จุด จับตา 4 ปัจจัยสำคัญในประเทศ โดยเฉพาะ “คดีทักษิณ และการเจรจาไทย-กัมพูชา” แนะเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี และหุ้นพื้นฐานแกร่ง ชู PTTGC-PTTEP-BCH-CPALL-GULF เด่น
นายพบชัย ภัทราวิชญ์ นักกลยุทธ์ตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ และสินทรัพย์ดิจิทัล สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ว่า แนมโน้มดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นในช่วงสั้น โดยให้แนวรับที่ระดับ 1,136–1,138 จุด และแนวต้านที่ 1,148–1,150 จุด โดยได้อานิสงส์จากบรรยากาศต่างประเทศเป็นหลัก และประเมินว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่มีหลายประเด็นซึ่งอาจมีผลต่อแนวโน้มของตลาดทั้งในด้านความเสี่ยงและโอกาส
โดยเฉพาะปัจจัยภายในประเทศ มี 4 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
1.ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเริ่มมีสัญญาณผ่อนคลาย โดยมีการถอนกำลังจากพื้นที่พิพาท และเตรียมหารือผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ หากกัมพูชาเข้าร่วมเจรจา ถือเป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
2.ประเด็นเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ หลังจากสหรัฐตอบรับข้อเสนอ 5 ข้อของไทย โดยอยู่ระหว่างเตรียมหารือในระดับเจ้าหน้าที่ ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกที่สะท้อนถึงความร่วมมือที่มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งคาดว่าอาจเริ่มได้ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า
3.การเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งศาลฎีกาจะมีนัดพิจารณาคดีในวันที่ 13 มิ.ย.68 หากมีคำวินิจฉัยที่ชัดเจนไม่ว่าในทิศทางใด อาจช่วยลดความไม่แน่นอน และส่งผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีในลำดับถัดไป
4.ความกังวลต่อหุ้น DELTA ซึ่งถ่วงดัชนี SET อย่างมีนัยสำคัญจากเกณฑ์คํานวณใหม่ของ ตลท. ที่จํากัดน้ำาหนักหุ้นรายตัว ใน SET50/SET100 ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ก.ค.นี้ และนักลงทุนรอการประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออก SET50-SET100 รอบใหม่ในช่วงกลางเดือนนี้ หาก DELTA ยังอยู่ในกลุ่มดัชนี อาจกดดัน Fund Flow ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงอาจช่วยลดแรงขายในระยะถัดไป
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงมีสัญญาณบวก โดยเฉพาะท่าทีของสหรัฐที่เตรียมเปิดเวทีหารือการค้ากับจีนในระดับเจ้าหน้าที่ในลอนดอน สะท้อนแนวโน้มความสัมพันธ์ที่คลี่คลายมากขึ้น หนุนภาพรวมตลาดหุ้นโลกให้มีแรงซื้อกลับ
ในส่วนของ Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิราว 2,000 ล้านบาท โดยเป็นผลจากแรงขายของกองทุนเดิมจาก LTF ที่ทยอยออก และยังไม่เห็นการย้ายเงินกลับเข้าสู่ Thai ESGX อย่างชัดเจน ซึ่งอาจต้องรอความชัดเจนของปัจจัยลบคลี่คลายลงก่อน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ นายพบชัยแนะนำ เก็งกำไรหุ้นธีม “China Play” ที่ได้รับประโยชน์จากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ได้แก่ กลุ่ม ปิโตรเคมี เช่น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และกลุ่ม พลังงานต้นน้ำอย่างบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP
นอกจากนี้ยังแนะนำ หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH,บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF