ตลท.สอบอินไซด์ KAMART แจงหากพบส่งเรื่อง ก.ล.ต.เชือดต่อทันที

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยส่งหนังสือเตือน “คาร์มาร์ท” กรณีแจ้งซื้อหุ้นคืนโดยไม่ได้ทำตามขั้นตอนของ ตลท. พร้อมอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีการใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขายหุ้น ก่อนที่จะแจ้งตลาดฯ หรือไม่ หากพบจะส่งเรื่องไปยังสำนักงาน ก.ล.ต.ลงโทษต่อไป


นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมายและบริหารกิจกรรมเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ได้มีการแจ้งเรื่องของการ “ซื้อหุ้นคืน” โดยไม่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ทางตลาดฯ ถือเป็น “ความผิดครั้งแรก” นับจากเข้าจดทะเบียนในปี 2538(17 ม.ค.) จึงได้มกาส่งหนังสือ “เตือน” ไป พร้อมสั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้อง

“ทางตลาดฯ ได้ทำหนังสือเตือนไป เพราเห็นว่าเป็นความผิดครั้งแรกนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยในส่วนของบริษัทฯ นั้น ทางตลาดคงไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อ” นายรองรักษ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี นายรองรักษ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการส่งหนังสือเตือนได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่สิ่งตลาดฯ ต้องดำเนินการต่อคือการเข้าไปตรวจสอบดูว่า ในช่วงที่ทางคาร์มาร์ท แจ้งเรื่องการซื้อหุ้นคืนโดยที่ไม่ได้ทำตามขั้นตอนของตลาดฯ นั้น มีบุคคลใดบ้างที่มีการซื้อขายแบบผิดปกติหรือ “อินไซด์” ด้วยการใช้ข้อมูลภายในหรือไม่ ซึ่งหากตรวจพบว่ามีกรณีดังกล่าว ทางตลาดฯ จะส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อดำเนินการต่อไป

ขณะที่มเอวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง KAMART ได้แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2568  เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568  มีมติให้บริษัทดำเนินการซื้อหุ้นคืน จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.60 บาท คิดเป็นไม่เกิน 2.34% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด วงเงินสูงสุดไม่เกิน 210 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาที่ไม่เกิน 6 เดือน เริ่มดำเนินการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดยมีเหตุผลว่าในสภาวะปัจจุบันมีปัจจัยหลายอย่างโดยเฉพาะปัจจัยทางการเมือง ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งหุ้นของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญและตกต่ำลงกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็นคณะกรรมการบริษัทจึงมีความเห็นว่าควรนำมาตรการซื้อหุ้นคืนมาใช้เพื่อรักษาให้สภาพตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่มีเหตุมีผลและเหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ บริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทในการซื้อหุ้นคืน และมอบอำนาจให้ฝ่ายบริหารเป็นผู้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนตามจังหวะ เวลาและมูลค่าที่เห็นว่าเหมาะสม

ขณะที่บริษัทได้รับทราบข้อผิดพลาดที่แจ้งกำหนดเวลาซื้อหุ้นคืนไม่ถูกต้อง รวมถึงได้ไปเปิดเผยข่าวในแหล่งอื่น โดยไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ซึ่งต้องเปิดเผยโครงการซื้อคืนหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยก่วา 3 วันก่อนวันซื้อหุ้นคืน

Back to top button