FINNIX ฉลองครบ 5 ปี เปิดฟีเจอร์ใหม่ อนุมัติไวสุด 5 วิ ลุยยอดสินเชื่อปีนี้แตะ 5.7 หมื่นล.

FINNIX แอปเงินด่วนเครือ SCBX ฉลองครบรอบ 5 ปี ประกาศวิสัยทัศน์ “แพลตฟอร์มสร้างโอกาส “นักสู้ชีวิต” เดินหน้าสร้างลูกค้าทะลุ 1.4 ล้านราย พร้อมดันยอดปล่อยสินเชื่อแตะ 57,000 ล้านบาท ในปีนี้ ชูจุดแข็งขับเคลื่อนข้อมูลด้วย AI ปล่อยสินเชื่อแม่นยำ-ปลอดภัย เสริมฟีเจอร์ใหม่ “อนุมัติไวสุดใน 5 วิ” ด้านแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้ำรอจังหวะเหมาะสมท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน


นางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) เปิดเผยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แอปฟินนิกซ์ช่วยให้คนไทยผู้มีรายได้น้อยหลุดพ้นจากวงจรหนี้นอกระบบแล้วกว่า 1.2 ล้านราย ด้วยยอดปล่อยสินเชื่อรวมกว่า 46,000 ล้านบาท โดยมี อัตราหนี้เสีย (NPL) เพียงระดับเลขหลักเดียวมาโดยตลอด

โดยเป็นการสะท้อนถึงความสามารถในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรงควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงที่มีคุณภาพ ฟินนิกซ์ มุ่งเน้นช่วยสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อถูกกฎหมายได้ด้วยแนวคิด “แพลตฟอร์มที่สร้างโอกาส (The Platform of Opportunities)” และกลยุทธ์ F.I.R.E. อีโคซิสเต็ม” ครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่ เข้าถึงเงินทุนถูกที่กฎหมายและเป็นธรรม (Finance), เข้าใจพฤติกรรมการเงิน (Intel), สร้างวินัยทางการเงิน (Reward) และเสริมรายได้และความรู้ทางการเงิน (Empowerment) เพื่อเสริมสร้างสุขด้านการเงินแบบองค์รวมให้มั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลผู้ใช้งานแอปฟินนิกซ์ตลอด 5 ปี พบอินไซต์ที่น่าสนใจของกลุ่มคนทำมาหากินที่เป็นลูกค้าแอปฟินนิกซ์ ทั้งในแง่ของโครงสร้างประชากร พฤติกรรมการใช้งาน พฤติกรรมการชำระเงิน และผลลัพธ์เชิงบวกที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 มิติสำคัญ ดังนี้

1.ข้อมูลกลุ่มลูกค้า ลูกค้าหลักของฟินนิกซ์คือกลุ่ม Gen Y คิดเป็น 67% เป็นเพศหญิง 64% โดยราว 58% มีอาชีพอิสระและเป็นลูกจ้างผู้มีรายได้น้อยที่มีอาชีพเสริม ซึ่งกว่า 57% มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้ากว่า 60% อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด และภาคอีสานเป็นภาคที่มีอัตราการเติบโตของฐานลูกค้าสูงที่สุด

2.พฤติกรรมการใช้งาน วันที่ 1 ของทุกเดือนหรือวันหวยออกเป็นช่วงที่มีลูกค้าขอสินเชื่อมากที่สุด โดยช่วงเวลาสมัครขอสินเชื่อยอดฮิตคือช่วงพักเที่ยง นอกจากนี้ ลูกค้าราว 50% ที่เป็นลูกค้าตั้งแต่ปีแรกยังคงใช้แอปฟินนิกซ์ต่อเนื่องมา 5 ปีจนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความเชื่อมั่นในบริการของแอปได้อย่างชัดเจน

3.พฤติกรรมการชำระเงิน: ลูกค้ากว่า 70% มีคะแนนในฟีเจอร์รายงานฟินนิกซ์เครดิตอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งกลุ่ม Gen X มีวินัยในการชำระสินเชื่อที่ดีกว่ากลุ่มอื่น ส่วนจังหวัดที่มีลูกค้าซึ่งมีพฤติกรรมรักษาเครดิตดี เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และปทุมธานี เป็นต้น นอกจากนี้ ข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่าลูกค้าใหม่มีพฤติกรรมการเงินดีกว่ากลุ่มเดิม แสดงถึงประสิทธิภาพของโมเดลอนุมัติสินเชื่อพลังไอเอที่ดีและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

4.ศักยภาพทางการเงิน: ลูกค้ากว่า 40% ได้รับการเพิ่มวงเงินจากพฤติกรรมการเงินที่ดีและ 20% ในกลุ่มนี้ได้รับวงเงินใหม่ที่สูงกว่าวงเงินเดิมถึง 2 เท่า สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างและรักษาเครดิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังพบว่าลูกค้าแลกฟินนิกซ์คอยน์ที่ได้รับเมื่อชำระสินเชื่อตรงเวลาเป็นส่วนลดดอกเบี้ยมากที่สุด โดยแลกไปแล้วรวมเป็นมูลค่ากว่า 8.3 ล้านบาท ช่วยลดภาระลูกค้าและเสริมสร้างวินัยได้เป็นอย่างดี

5.การเพิ่มรายได้และความรู้เรื่องเงิน: ผู้ใช้งานแอปว่า 157,000 คน มีโอกาสหารายได้เสริมจากการสมัครงานกับพันธมิตรต่างๆ ผ่านแอปฟินนิกซ์ โดยผู้ใช้งานอีกกว่า 62,000 คน มีโอกาสพัฒนาความรู้เรื่องเงินจากโครงการห้องเรียนออนไลน์ “เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์” ทั้งหมดนี้ ตอกย้ำว่าแอปฟินนิกซ์เป็นมากกว่าแอปเงินกู้ ทำให้คนทำมาหากินได้ ‘เงินดี มีสุข’ อย่างแท้จริง

นางสาวถิรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) กล่าวต่อว่า ตลอด 5 ปี แอปฟินนิกซ์ได้อยู่เคียงข้างคนทำมาหากินทั่วประเทศในทุกช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ภัยธรรมชาติ หรือภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย

เราได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ย่อท้อที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตนเองและครอบครัวของคนกลุ่มนี้ จึงขอเรียกว่า “นักสู้ชีวิต” โดยทุกคนเป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้แอปฟินนิกซ์ มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความประทับใจนี้ จึงยกระดับแอปฟินนิกซ์เป็น “แพลตฟอร์มที่สร้างโอกาสให้นักสู้ชีวิตเงินดีมีสุข (The Platform of Opportunities for Life Fighters)” เพื่อเชิดชู สนับสนุน และเคียงคู่นักสู้ชีวิตทุกคน

นอกจากนี้ ฟินนิกซ์ยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “เคียงคู่นักสู้ชีวิต” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยืนหยัดเคียงข้างคนทำมาหากินทั่วไทยอย่างแท้จริง โดยแคมเปญนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของนักสู้ชีวิตในรูปแบบเกมต่อสู้ มีฉากต่อสู้ที่สนุก เข้าถึงง่าย และสะท้อนถึงความท้าทายทางการเงินที่คนไทยต้องเผชิญในชีวิตจริง โดยมี “น้องฟินนี่” มาสคอตประจำแบรนด์ มาเคียงข้างร่วมเติมพลังใจให้กับนักสู้ทุกคน พร้อมฟีเจอร์เด็ด “อนุมัติไวสุดใน 5 วินาที” ช่วยให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงเงินทุนที่ถูกกฎหมายได้ทันใจ พร้อมไปสู้ชีวิตได้ทุกที่ ทุกเวลา รับชมวิดีโอโฆษณาได้ที่ https://youtu.be/RoyIZZvLa1o  

ขณะที่ หากถามถึงทิศทางการเติบโตในอนาคตนั้น ตามที่ SCBX เคยประกาศใน Analis Meeting ที่ผ่ามาเราทำได้ดีกว่าเป้าที่วางไว้ในปีที่แล้ว แต่สำหรับปีนี้ ต้องบอกว่าอยากรักษาความเป็น Dynamic หรืออัตราการเติบโตไว้ใกล้เคียงกับปีก่อน ไม่ถึงกับสูงกว่ามากนัก เพราะภาพรวมเศรษฐกิจยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลขเป็นหลัก แต่ดูจากจำนวนลูกค้าและความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

“จุดแข็งของเรา คือ เราเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) ตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มดำเนินธุรกิจ ลูกค้าของเรามี historical data อยู่ในระบบเยอะมาก เราให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการใช้งานในแอปของลูกค้า เช่น การจ่ายล่าช้า การรับสาย ฯลฯ ซึ่งใช้ในการประเมินความเสี่ยงและวงเงินที่เหมาะสม” นางสาวถิรนันท์ กล่าว

อีกหนึ่งจุดเด่นของแพลตฟอร์ม คือ การใช้ AI  สามารถประเมินวงเงินสินเชื่อโดยอิงจากความสามารถในการชำระคืนของลูกค้า ไม่ใช่จากความต้องการของลูกค้า กล่าวคือ ระบบจะไม่ถามว่าลูกค้าอยากได้เงินกู้เท่าไหร่ แต่จะเสนอวงเงินที่เหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งแนวทางนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระคืนได้จริง และอยู่กับแพลตฟอร์มในระยะยาว โดยวงเงินสินเชื่อเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 16,000 บาท และสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ 50,000-100,000 บาท

รวมถึงจุดมุ่งหมายถึงของบริษัทคือการให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อที่ถูกต้อง และคู่แข่งที่แท้จริงของเราทุกวันนี้ไม่ใช่สถาบันการเงินหรือ แต่คือ “หนี้นอกระบบ” ทุกข้อความที่เราสื่อสารออกไปจึงถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความตระหนักถึงหนี้นอกระบบอย่างแท้จริง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในเพจ Facebook ของฟินนิกซ์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มที่ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การอธิบายลักษณะของแอปผิดกฎหมาย แอปที่ใช้วิธีทวงหนี้แบบรุนแรง

ในส่วนของแผนการเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขณะนี้ บริษัทตัดสินใจชะลอแผนออกไปก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่เอื้อต่อการเข้าตลาด ซึ่งอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยแม้ว่าในด้านเกณฑ์ทางการเงินจะไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ที่เป็นอุปสรรค แต่การตัดสินใจว่าจะเข้าตลาดเมื่อใดนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด

นางสาวถิรนันท์ กล่าวเสริมว่า ไม่ใช่เพียงแค่มุมของลูกค้าเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่มุมของผู้ประกอบการเองก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับฟินนิกซ์แล้ว ผลตอบรับจากลูกค้าที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเรากำลังเดินมาถูกทาง และมีความมั่นใจว่าเรารู้จักลูกค้าและเข้าใจตลาดนาโนไฟแนนซ์ดี

ด้วยเหตุนี้ ปี 2568 ฟินนิกซ์จึงตั้งเป้าหมายที่จะช่วย “นักสู้ชีวิต” เพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านคนในปีที่ผ่านมา เป็น 1.4 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับตั้งเป้าดันยอดสินเชื่อรวมให้ได้ถึงประมาณ 57,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มที่เรียกว่า job opportunity หรือกลุ่มที่มีโอกาสสร้างรายได้จากการร่วมอยู่ในระบบของเรา ไม่ว่าจะเป็นการมีอาชีพที่มั่นคงขึ้น หรือรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนจาก 160,000 คนในปัจจุบัน เป็น 200,000 คนในปีนี้

เรายังคงไม่ละทิ้งการพัฒนา (FIRE Ecosystem) ซึ่งเป็นระบบนิเวศของฟินนิกซ์ที่เชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านการเงินและอาชีพ หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่เรากำลังเตรียมเปิดตัวภายในปีนี้ก็คือ “อนุมัติไวใน 5 นาที” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการยกระดับประสบการณ์การขอสินเชื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น

“ขอขอบคุณลูกค้ากว่าล้านคนที่ช่วยสนับสนุนฟินนิกซ์มาตลอด 5 ปี ตั้งแต่วันแรกในชื่อ ‘ห้าให้มันนี่’ จนถึงวันนี้ ในก้าวต่อไป เราขอเป็นเพื่อนร่วมทางของนักสู้ชีวิตทุกคนในทุกวันที่ออกไปทำมาหากิน เพื่อตอบแทนความรักที่ลูกค้ามีให้กับแอปฟินนิกซ์ เราจะมุ่งมั่นพัฒนาแอปให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป โดยฟีเจอร์ ‘อนุมัติไวสุดใน 5 วิ’ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในวาระครบรอบ 5 ปีเท่านั้น เรายังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ เพื่อขอบคุณนักสู้ชีวิตทุกคนที่ร่วมเดินทางมากับเรา และเพื่อให้ทุกคนได้ ‘เงินดี มีสุข’ อย่างแท้จริง” นางสาวถิรนันท์ กล่าวปิดท้าย

Back to top button