“ทักษิณ” เปรียบ “ทรัมป์” เหมือนบริษัทยักษ์ แนะไทยเจรจาอย่างมีชั้นเชิงปกป้อง SME–เกษตรกร

“ทักษิณ ชินวัตร” ชี้นโยบายภาษีทรัมป์ใช้กลยุทธ์บริษัทยักษ์มีอำนาจต่อรองสูง แนะไทยต่อรองอย่างมีชั้นเชิง ปกป้องเอสเอ็มอี–เกษตรกร พร้อมเสนอทางรอดเศรษฐกิจไทยด้วยการดึงลงทุนต่างชาติ–ผลักดันดิจิทัลกริด–สร้างซอฟต์พาวเวอร์


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านกิจกรรม “55 ปี NATION ผ่าทางตันประเทศไทย Exclusive Talk กับ 3 ผู้นำทางความคิด” ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น โดยกล่าวถึงการทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นว่า ต้องยอมรับว่าหนักทุกแห่ง เพราะตอนรัฐบาลนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลก็เจอปัญหาภาวะหนี้ประเทศ เมื่อเราจะใช้เงินอะไรก็ใช้ยาก ใช้ลำบาก เพราะหนี้ต่อจีดีพีเยอะมาก และยังมีหนี้ครัวเรือน รวมถึงหนี้เอสเอ็มอีสูงมาก จึงทำให้ลำบาก เพราะการทำมาหากินต้องลงทุนใหม่ ของเก่ายังไม่พอใช้ต้องลงทุนใหม่ตรงนี้จึงยาก เราต้องจัดการ 3-4 อย่างพร้อมกัน ทั้งแก้หนี้พร้อมกัน และต้องหาโอกาสใหม่ให้กับประชาชน และรัฐต้องหาทางลงทุนให้ได้ ซึ่งวันนี้ ถ้ารัฐลงใส่เงินตัวเองลำบาก เพราะกับดักหนี้ จึงต้องชวนประเทศที่มีเงินมาลงทุนให้ก่อน และต้องดูว่ากฎหมายเราอันไหนรับได้และไม่เป็นหนี้สาธารณะ เช่น ประเทศอาหรับเอมิเรตส์เงินเหลือเยอะมาก เขาอยากลงทุนที่ตะวันออก จึงอยากให้ตนไปพูดคุย แต่ยังไปไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร รออีกนิดนึง

นายทักษิณ​ กล่าวว่า สมมติว่าตนอยากจะลดค่าไฟฟ้า ต้องหาทางลดค่าใช้จ่ายภาคประชาชนตนก็ต้องทำดิจิทัลกริด คือกริดที่เป็นระบบดิจิทัล แยกได้ว่าลงมาจากพลังงานสีเขียว มาจากแก๊ส ถ้ามาจากสีเขียวก็ได้คาร์บอนเครดิต คนก็อยากใช้สีเขียว เราสามารเช็คความรั่วไหลของไฟฟ้าได้ เมื่อไฟฟ้าจ่ายมารั่วไปเท่าไหร่แท็ปไว้แล้วจ่ายออก จึงลดค่าใช้จ่ายภาคประชาชนได้ และทำให้ค่าไฟลดลง ทำให้เราแยกพลังงานสีเขียวได้ ควบคุมการรั่วไหลให้เกิดประสิทธิภาพของการไฟฟ้า เขาส่งคนมาคุย ตนจึงคิดว่าเข้าท่า แต่เราไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะไม่มีเงิน ซึ่งไฟฟ้าทั้ง 2 ไม่อยากทำ เขาอาจจะยังไม่มีทางออก วันนี้ต้องคุยว่าแบบนี้จะเอาไหม

นายทักษิณ​ กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยต้องพัฒนาตัวเอง และต้องลงทุนภาครัฐ แต่ภาครัฐไม่มีเงิน ก็ต้องเอาภาคเอกชนมาลงทุนเยอะๆ เราต้องเตรียมตัว 2 ส่วน คือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ใช้ซอฟพาวเวอร์ ต้องขับเคลื่อนอย่างจริงจัง แต่ระบบราชการขับเคลื่อนยาก ซึ่งคนไทยมีฝีมือสามารถเอาไปสู่ตลาดโลกได้ และอีกส่วนหนึ่งคือ ‘เอไอ’ เพราะเอไอเรียนทางลัดได้เลย เมื่อเรียนจบก็จะให้โทเคนไป เพื่อไปเรียนการใช้เล่นเอไอ เราก็อาจจะขอเจรจากับแอปพลิเคชั่น ให่มาช่วยกันว่าหากจะเหมาให้คนเล่น คิดเท่าไหร่ โดยรัฐให้เงินอุดหนุน เอไอทำให้คนหูตากว้างขึ้น ฉลาดขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ต้องคุยว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร

ส่วนเรื่องภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายทักษิณ มองว่า ทรัมป์คือนักธุรกิจ ฉะนั้น วิธีการของเขาคือนักธุรกิจ เหมือนบริษัทใหญ่ที่มีอำนาจต่อรองสูง ยื่นเงื่อนไขที่คุณต้องยื่นไปก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจบ ต่อรองได้ อัดให้ติดมุมก่อน แล้วค่อยคุย ซึ่งวันนี้จดหมายที่ออกมา ออกมาจากทำเนียบขาว แต่ข้อเสนออันใหม่ของเราที่ปรับปรุง ซึ่งอันแรกไปเขาบอกว่ายังไม่พอ เราก็เอากลับมา แล้วเราก็ใส่กลับไป เขาบอกว่าไปถึงหน่วยงานหนึ่ง แต่ยังไม่ไปถึงทำเนียบขาว ทางทำเนียบขาวสรุปไปก่อน แต่เรายังไม่หยุดเรายังเจรจาต่อ ห้วงเจรจาเหลือ 20 วัน ไม่เป็นไรก็ทำไป แต่ถ้าเราเร่งเจรจาแล้วไปยอมทุกอย่าง แก้ผ้าให้เลย เราก็ถูกชำเราฟรี ฉะนั้น เราต้องคิดทางถอย ถ้าเราให้ไปทุกอย่างก็ไม่ไหว ให้เท่าที่ไม่เสียหาย ให้ได้ให้ไป

นายทักษิณ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มี 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.เป็นสินค้าที่บริษัทอเมริกามาจ้างทำที่ประเทศไทย หรือมาตั้งบริษัทแล้วส่งออกไปที่อเมริกา ซึ่งส่วนนี้คิดว่าเราได้ค่าแรงและค่าวัตถุดิบเล็กน้อย ซึ่งการที่จะย้ายฐานการผลิตย้ายยากมาก เพราะคนไทยทำมาเป็น 10 ปีแล้ว ฉะนั้น คนอเมริกันก็รับสภาพค่าใช้จ่ายไป 2. ชิ้นส่วนมาจากประเทศจีน ประกอบที่ไทยแล้วก็ส่งไปขายอเมริกา ส่วนนี้เราเกินดุลสหรัฐอเมริกา แต่ขาดดุลที่จีน ซึ่งส่วนนี้เราไม่ค่อยเดือดร้อน

และ 3. อันนี้เดือดร้อน ทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ของเอสเอ็มอี สินค้าการเกษตร ถ้าเราจะป้องกันส่วนนี้ เราก็ต้องมาดูว่า แล้วเราจะเปิดให้เข้ามา แต่ถูกกระทืบถึงที่ก็ไม่ได้ ก็ต้องดูว่าเอาอย่างไร และเป็นส่วนที่เราต้องปกป้อง เราจะยอมในสิ่งที่เป็นไปได้ ต้องคิดด้วย คุณขายสินค้าให้เรา เราเก็บภาษีคุณ แต่คุณขายบริการให้เราเยอะ บางอย่างเราไม่ได้เก็บภาษี อย่างบริการสตรีมมิ่ง เราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครอย่างไร ซึ่งกลไกนี้ยักษ์เล็กจะสู้ยักษ์ใหญ่หรือไม่ เราจะขอความแฟร์ว่า เราเสียทุกอย่าง คุณก็เสียบ้าง แค่นั้นเอง

เมื่อถามว่า มีปัจจัยเรื่องภูมิศาสตร์การเมืองด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ นายทักษิณ เห็นว่า สิ่งที่เขาอยากรู้คือเรามีข้อเสนอระยะห่างกับทางประเทศจีนเท่าไหร่ จึงจะได้สิทธิ์ในเรื่องภาษีลด เราเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลาง เราจะบริหารอย่างไร ดังนั้น เราก็เลือกเท่าที่ทำได้ อย่างเขามาขอบางอย่าง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเศรษฐกิจเลย แต่ไปเกี่ยวกับความมั่นคง เราก็ต้องคิดว่าขออย่างนี้นำสงครามมาบ้านเรา เราก็ไม่เอา เราไม่อยากเป็นยูเครน เราต้องดูทุกมิติ คนไทยอย่าพึ่งสรุปหรือตกใจ ตนยังอยู่ ตนไม่โง่ 76 ปี ยังไม่โง่

สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจตอนนี้มีการพูดกันว่าโลโก้ของพรรคเพื่อไทยคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ออกนโยบายและสำเร็จผล แต่ถึงตอนนี้ 2 ปีแล้วของรัฐบาลเพื่อไทย นับวันเศรษฐกิจยิ่งถดถอยจะแก้อย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า เห็นใจเราหน่อย เพราะเลือกเรามาน้อย เลยต้องเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค และต้องใช้เวลาในการไปพูดคุยหรือขอร้อง ไม่ง่าย  แล้วเจอปัญหารอบด้านทั้งหมด อย่างภาคการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนหายไป เพราะมีเว็บไซต์บางเว็บของรัฐวิสาหกิจจีนเค้าบอกว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย

Back to top button