
SCB บวกต่อ 2% ขานรับกำไร Q2 โต 28% แตะ 1.28 หมื่นล้าน! ลุ้นปันผลงวดกลางปี 2 บาท
SCB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 จำนวน 12,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% จากปีก่อน สูงกว่าค่าเฉลี่ยนักวิเคราะห์ 17% สะท้อนการบริหารต้นทุนและคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง พร้อมจับตาจ่ายปันผลระหว่างกาล 2 บาทต่อหุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ณ เวลา 10:13 น. อยู่ที่ระดับ 123.00 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 1.65% สูงสุดที่ระดับ 124.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 122.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 807.52 ล้านบาท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB เปิดเผยว่า SCBX รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 12,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำไรเงินลงทุนที่สูงขึ้น การตั้งสำรองที่ลดลง และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 25,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% แม้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและค่าธรรมเนียมจะลดลงเล็กน้อย แต่การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างดี ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเหลือ 40.2% ขณะที่รายได้จากการลงทุนยังเป็นแรงหนุนสำคัญของผลประกอบการในไตรมาสนี้
ส่วนในด้านคุณภาพสินทรัพย์ SCBX ยังคงรักษาระดับที่มั่นคง โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 3.31% ลดลงจาก 3.34% ในปีก่อนหน้า ขณะที่การตั้งสำรองยังอยู่ในระดับรัดกุม โดยมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อ NPL (Coverage Ratio) สูงถึง 159% และมีการกันสำรองพิเศษรองรับความไม่แน่นอนในอนาคตเพิ่มเติมอีกด้วย ด้านฐานะการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินกองทุนตามกฎหมายอยู่ที่ 18.8% สะท้อนถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า SCB ที่รายงานผลประกอบการออกมา โดยกำไรดังกล่าว สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ชั้นนำคาดไว้ถึง 17% ถือเป็นการรายงานผลประกอบการที่ “เหนือความคาดหมาย” อย่างชัดเจน
โดยค่าเฉลี่ยประมาณการของนักวิเคราะห์จาก 13 โบรกเกอร์อยู่ที่ 10,970 ล้านบาท โดย SCB สามารถทำกำไรได้สูงกว่าทุกสำนักประเมิน ซึ่ง 6 โบรกเกอร์ที่ให้ราคาใกล้เคียงมากสุด ได้แก่ 1. บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดไว้ที่ 12,474 ล้านบาท 2. บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดไว้ที่ 11,656 ล้านบาท 3. บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดไว้ที่ 11,389 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ PI คาดไว้ที่ 11,149 ล้านบาท 5. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดไว้ที่ 11,092 ล้านบาท และ 6. บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดไว้ที่ 11,000 ล้านบาท สูงกว่าคาด 16%
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS คาดว่า SCB จะจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาลที่ 2.00 บาทต่อหุ้น