
พรรคร่วมรัฐบาลรวมตัวกระชับมิตร “ทักษิณ” ชี้ความสามัคคีคือกุญแจสำคัญ แม้เสียงไม่ท่วมท้น
“พรรคเพื่อไทย” จัดดินเนอร์รวมใจพรรคร่วมรัฐบาล "ทักษิณ" ย้ำสามัคคีคือพลังขับเคลื่อนประเทศ ฟาก "แพทองธาร" ขอบคุณทุกพรรคพร้อมลุยเพื่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ค.68) ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ภายใต้ชื่องาน “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้กล่าวเปิดงาน พร้อมต้อนรับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพร้อมหน้า ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง
โดยในช่วงเย็น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงาน ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เดินออกมาต้อนรับด้วยตนเอง โดย นายทักษิณ ได้พบปะและกล่าวกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนมีความรู้สึกเหมือน 51 ปีที่แล้ว ตอนนั้นอายุ 25 ปี มีประสบการณ์ทางการเมืองเหมือนวันนี้ ตอนนั้นได้ช่วยราชการอยู่กับ นายปรีดา พัฒนถาบุตรรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเป็นวิปรัฐบาล สมัยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี บรรยากาศคล้ายกันเพราะสมัยก่อนพรรคร่วมรัฐบาลมีหลายพรรค เพราะเป็นผลพวงจากการเขียนกฎหมายทางการเมืองให้หลายพรรคการเมือง ต้องเป็นในสภาพที่ไม่เป็นพรรคใหญ่มากนัก
สมัยนั้น ตนมีบทบาทในการควบคุม สส. ให้มาโหวตกฎหมายสำคัญทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ หรือกฎหมายสำคัญของรัฐบาล ตนต้องไปอยู่ในสภาฯ ต้องไปไล่ตามหัวหน้าพรรคต่างๆ เพื่อให้ผู้แทนทั้งหลายได้อยู่ในสภาฯให้เรียบร้อย และมั่นใจว่าเราชนะโหวตก็ประคองอยู่พักนึง และตอนหลังมีเหตุการณ์หลายอย่าง
นายทักษิณ ยังมองว่า วันนี้การเมืองมีความท้าทายเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องสร้างความเป็นปึกแผ่นถึงแม้ว่าเสียงจะเกินกึ่งหนึ่งไม่มากเกินไปนัก แต่ด้วยความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาของชาติ เสียงหนึ่งเสียงก็เกินพอเกินพอ
สมัยก่อนรัฐมนตรีมีตั้ง 48-49 คน เขาดูแล 1 ต่อ 4 คน ดูแลกันได้อบอุ่นตนเชื่อว่าวันนี้ถ้าแต่ละพรรคแบ่งรัฐมนตรีให้ความอบอุ่นแก่สส.ก็จะมั่นคง เพราะบางครั้งหากไม่ดูแลก็จะถูกตีท้ายครัว หากดูแลดีๆ ก็ไม่ถูกใครตีท้ายครัว เพราะวันนี้เรามีพวกชอบตีท้ายครัวอยู่ ตนเชื่อว่ารัฐบาล เชื่อในทฤษฎีอย่างหนึ่งคือเซ็ทแบ็ก คือเราถอยออกมา เหมือนเวลาเราตีเทนนิส และลูกกลับมาเข้าฝั่งมันจะรุนแรงกว่า ดังนั้น การแก้ปัญหาของเราวันนี้เมื่อมีปัญหา ตนมั่นใจว่า รัฐบาลจะแข็งแรงกว่าที่แล้วมา เพราะมีความสามัคคีกัน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย วันนี้ได้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลเป็นกระทรวงเป็นกระทรวงที่ส่งนโยบายถึงมือประชาชน และได้เห็นนายภูมิธรรมไปนั่งทำงานก็ไม่ค่อยดุเท่าไหร่ ไปถึงสัปดาห์แรกย้ายอธิบดี 2 คน ซึ่งบางทีประเทศเราต้องการ ความเด็ดขาดเฉียบพลัน บางทีเราช้าไปรำวงมากไปก็ไม่ค่อยดี วันนี้เราไม่มีเวลาคนอื่นรำวงโชว์เราแล้ว ตอนนี้ต้องเอาจริง
ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร กล่าวย้ำถึงความสำคัญของความมั่นคงภายในประเทศ โดยระบุว่า แม้จะมีสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในประเทศ แต่ความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาลคือหัวใจสำคัญที่จะพาประเทศก้าวผ่านวิกฤต พร้อมยืนยันว่าแม้ในอนาคตอาจไม่มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ในบทบาทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนอย่างไม่ลดละ
นอกจากนี้ ยังได้ย้ำถึงเจตนารมณ์ในการรักษาอธิปไตยของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน และเจ้าหน้าที่ทหาร โดยยึดหลักสันติวิธีเป็นหลัก พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะสามารถร่วมกันขับเคลื่อนประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้อย่างถูกต้อง
สำหรับภายในงานมีการรวมตัวของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจากหลายพรรค อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายไผ่ ลิกค์ พรรคกล้าธรรม, นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พรรคประชาชาติ และนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงคณะรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล