
CGSI มองกรอบ SET วันนี้ 1,200-1,235 จุด ชู 2 หุ้นเด่น HANA-PTTEP
CGSI คาดดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,200–1,235 จุด นักลงทุนจับตาผลเจรจาภาษีการค้าไทย–สหรัฐฯ คาดกระทบ GDP ไทยหากเก็บภาษีสูง พร้อมชู 2 หุ้นเด่น HANA-PTTEP
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ประเมินว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200–1,235 จุด โดยได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยเฉพาะตัวในประเทศ โดยเฉพาะความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งมีการแถลงร่วมกันโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายไทย
โดยได้ตกลงให้ทั้งสองประเทศหยุดยิงทันที พร้อมเตรียมให้กองทัพของทั้งสองฝ่ายจัดประชุมหารือในวันที่ 29 กรกฎาคม และมีแผนจะกลับมาเปิดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคม 2568
ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเจรจาด้านภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย โดย CGSI ได้ประเมินผลกระทบในระดับต่าง ๆ ดังนี้ หากสหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 20% อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2568 อาจลดลงเหลือ 1.6%
ขณะที่หากอัตราภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% GDP จะลดลงเหลือ 1.5% โดยแม้การส่งออกจะลดลง แต่จะได้รับการชดเชยบางส่วนจากการนำเข้าที่ลดลงซึ่งถือเป็นค่าหักออกในการคำนวณ GDP และในกรณีที่ภาษีสูงถึง 30% การเติบโตของ GDP ยังถูกจำกัดอยู่ที่ 1.5% แม้ว่าการส่งออกจะได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่การลดลงของการนำเข้าจากสหรัฐฯ จะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวม
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน CGSI แนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ HANA และ PTTEP โดยในกรณีของ HANA คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 2/2568 จะอยู่ที่ 135 ล้านบาท ลดลง 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 39% จากไตรมาสก่อนหน้า จากแรงกดดันของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อย่างไรก็ตาม CGSI ประเมินว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของ HANA จะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสนี้ และมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ พร้อมแนะนำจุดทำกำไรที่ 21.80 บาท และจุดตัดขาดทุนที่ 21.30 บาท
ด้าน PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ที่ 13,515 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของ Bloomberg และมีการประกาศเข้าซื้อกิจการแปลง A-18 ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของ PTTEP เพิ่มขึ้นราว 2.40 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนการจ่ายเงินปันผลได้ในระดับมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยให้คำแนะนำ Take Profit ที่ 118.00 บาท และ Stop Loss ที่ 115.00 บาท