
BANPU-AGE-LANNA วิ่ง! รับ “ถ่านหินเอเชีย” นิวไฮรอบ 5 เดือน-สต็อกลดหนุนราคา
หุ้นถ่านหิน BANPU-AGE-LANNA ปรับตัวขึ้นตอบรับราคาถ่านหินเอเชียพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน หลังอากาศร้อนจัดหนุนความต้องการใช้ไฟฟ้า ขณะที่สต็อกถ่านหินในภูมิภาคเริ่มลดลง หนุนแนวโน้มราคาขาขึ้นในไตรมาสหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ค. 68) ราคาหุ้นในกลุ่มถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างพร้อมเพรียงในช่วงการซื้อขายล่าสุด ณ เวลา 14:54 น. อาทิ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.74 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 2.60% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 4.76 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 4.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165.43 ล้านบาท
บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 16.70 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.21% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 16.80 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 16.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.18 ล้านบาท
บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.83 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 1.22% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 0.83 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 0.81 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.06 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น BANPU- AGE -LANNA ปรับตัวขึ้นทั่วหน้าสอดคล้องกับราคาถ่านหินในตลาดเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในหลายประเทศช่วงฤดูร้อน ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นผู้นำเข้าถ่านหินรายใหญ่ของภูมิภาค นอกจากนี้ ระดับสต็อกถ่านหินในหลายพื้นที่เริ่มปรับลดลงต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนราคาตลาด
ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าถ่านหิน Newcastle ของออสเตรเลียปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 115.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ข้อมูลล่าสุดระบุว่า การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินในกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือน ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ราคาปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2565 กว่า 75% ซึ่งเคยพุ่งขึ้นอย่างมากจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย–ยูเครนในช่วงต้นปีดังกล่าว
ด้านนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ให้ความเห็นว่า สภาพอากาศที่ร้อนผิดปกติในประเทศผู้นำเข้าหลัก เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อาจส่งผลให้ความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสถัดไป พร้อมระบุว่า ปริมาณสต็อกถ่านหินของจีนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน และอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้