IRPC ไตรมาส 2 รักษา “EBITDA” แตะ 223 ล้านบาท แม้ขาดทุน 2.1 พันลบ.

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ดังนี้

บริษัทฯ รายงานไตรมาส 2/68 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2,132.06 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 732.29 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากการขายสุทธิลดลง 17,264 ล้านบาท หรือ 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจาก ราคาขายเฉลี่ยลดลง 21% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ปริมาณขายลดลง 2%

สำหรับ ธุรกิจปิโตรเลียม Market GRM เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเทียบกับราคาน้ำมันเตา รวมถึงส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมี Market PTF เพิ่มขึ้น จากปริมาณการขายในกลุ่มสไตรีนิกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคมีกำไรขั้นต้นค่อนข้างคงที่ ส่งผลให้บริษัทฯ มี Market GIM เพิ่มขึ้น 1,754 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ บันทึก Net Inventory Loss จำนวน 2,019 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ที่บันทึก Net Inventory Gain จำนวน 1,404 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มี Accounting GIM อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท ลดลง 1,669 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มี EBITDA อยู่ที่ 223 ล้านบาท ลดลง 85% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 โดยในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ บันทึกขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมัน 250 ล้านบาทเนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ลดลง
นอกจากนี้ ยังมี ขาดทุนจากการด้อยค่าและจำหน่ายทรัพย์สิน 157 ล้านบาท ตามที่กล่าวไปก่อนหน้าส่งผลให้ในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ บันทึก ผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 2,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 จำนวน 1,400 ล้านบาท

สำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 68 บริษัทพลิกขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3,338.11 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 812.25 ล้านบาท เนื่องมาจากมีรายได้จากการขายสุทธิรวม 119,026 ล้านบาท ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากราคาขายเฉลี่ยลดลง 17% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงและปริมาณการขายลดลง 3%

สำหรับธุรกิจปิโตรเลียมมี Market GRM ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน เทียบกับราคาน้ำมันเตา ซึ่งปรับตัวดีขึ้นที่ได้รับอานสิงส์งจากราคาน้ำมันเตาปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบลดลง

นอกจากนี้ ธุรกิจปิโตรเคมีมี Market PTF ลดลง โดยหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ HDPE ในกลุ่มโอเลฟินส์กับวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จากนโยบาย Reciprocal Tariffs ของสหรัฐฯ

ขณะที่กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคมีกำไรขั้นต้นคงที่ส่งผลให้บริษัทฯ บันทึก Market GIM อยู่ที่ 9,105 ล้านบาท หรือ 7.39 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยหลักกดดันราคาจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตโดยสมัครใจของโอเปกและพันธมิตร จึงส่งผลให้บริษัทฯ บันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวน 1,877 ล้านบาท หรือ 1.52 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

อีกทั้ง บริษัทฯมีกำไรจากการกลับรายการ NRV จำนวน 235 ล้านบาท หรือ 0.19 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีกำไรจาก Realized Oil Hedging จำนวน 255 ล้านบาท หรือ 0.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากรายการดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ บันทึก Net Inventory Loss รวม 1,387 ล้านบาท หรือ 1.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มี Accounting GIM จำนวน 7,718 ล้านบาท หรือ 6.27 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว บริษัทฯ มี EBITDA จำนวน 1,819 ล้านบาท ลดลง 70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ บริษัทฯ บันทึกค่าเสื่อมราคา 4,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีต้นทุนทางการเงินสุทธิ 1,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ในงวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทฯ ยังบันทึก ขาดทุนจากการลงทุนจำนวน 425 ล้านบาท จากส่วนแบ่งขาดทุนของบริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UCHA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2568 จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ในงวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทฯบันทึกผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 3,338 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 812 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากบริการท่าเรือและถังบรรจุ ซึ่งในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้อื่นจำนวน 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้จากการให้บริการอื่น ๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้อื่นรวม 695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการให้บริการท่าเรือและถังบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น

สำหรับนั้นงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 5,813 ล้านบาท ลดลง 789 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง จากการดำเนินโครงการปรับโครงสร้างองค์กร (MSP) ในปี 2567