
“จีน” จับตาชิป AI “H20” ของ Nvidia มีช่องโหว่ความปลอดภัย หวั่นเป็นเครื่องมือสอดแนมสหรัฐ
รัฐบาลจีนกังวลความปลอดภัยชิป AI อินวิเดีย H20 ชี้อาจมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง ทั้งมีฟังก์ชันสำหรับติดตามและปิดระบบระยะไกล ที่พัฒนาเพื่อขายในจีนโดยเฉพาะ หลังสหรัฐฯ เคยสั่งห้ามส่งออก ขณะที่อินวิเดียปฏิเสธสร้างช่องโหว่ และตลาดจีนยังคงเป็นโอกาสทำกำไรท่ามกลางข้อพิพาทการค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนแสดงความกังวลต่อชิป AI รุ่น H20 ของอินวิเดีย โดยสื่อของรัฐบาลจีนชี้ว่าชิปรุ่นดังกล่าวมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจาก “ช่องโหว่” (backdoor) อีกทั้งไม่ได้มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีหรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ชิป AI รุ่น H20 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเจาะตลาดจีนโดยเฉพาะ หลังจากสหรัฐฯ กำหนดข้อจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงเมื่อปลายปี 2566 ต่อมาในเดือนเมษายน 2568 รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งห้ามการจำหน่ายชิปดังกล่าวให้จีน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ ก่อนจะยกเลิกคำสั่งห้ามในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ สำนักบริหารไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีน (CAC) ได้เรียกเจ้าหน้าที่ Nvidia เข้าชี้แจง เพื่อสอบถามถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชิป H20 โดยมีรายงานว่าชิปรุ่นนี้ถูกกล่าวหาว่าสร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ บางส่วนเสนอให้ชิป AI ขั้นสูงที่ส่งออกไปต่างประเทศต้องติดตั้งฟังก์ชัน “การติดตามและระบุตำแหน่ง” (tracking and positioning)
CAC ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ของสหรัฐฯ เปิดเผยถึงการพัฒนาเทคโนโลยี “การติดตามและระบุตำแหน่ง” และ “การปิดระบบจากระยะไกล” (remote shutdown) ในชิปอินวิเดียถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับจีน
ด้านโฆษกอินวิเดียยืนยันว่า “ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด และบริษัทไม่ได้สร้างช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าถึงหรือควบคุมชิปจากระยะไกลได้”
การเพิ่มความเข้มงวดด้านการตรวจสอบจากจีนอาจสร้างแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อ นายเจนเซน หวง CEO Nvidia ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการปฏิบัติตามนโยบายเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ กับการรักษาตลาดจีนซึ่งมีศักยภาพสูงในการทำกำไร