คลังเร่งเจรจา ERW ปมสัญญาเช่า “แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ” หลังล่าช้า

“ลวรณ” ปลัดคลังย้ำพร้อมเจรจากับ “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” (ERW) กรณีสัญญาเช่าพื้นที่ของ “โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ” หลัง ERW จ่อฟ้อง “สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว” บริษัทลูกของคลัง เหตุมีความล่าช้าเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่า


จากกรณี บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมฟ้องผู้ร่วมทุน “บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด” บริษัทลูกกระทรวงการคลัง เรื่องการต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของ “โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ” ซึ่งไม่แล้วเสร็จ และล่าช้ามาเกิน 3 ปีนั้น

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท สหโรงแรมไทยฯ พร้อมที่จะเจรจากับกับทางกลุ่มดิ เอราวัณ ถึงขั้นตอนในการต่ออายุสัญญาฉบับเดิมอยู่ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ สหโรงแรมไทยฯ มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ผ่านทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ถือหุ้น 117,705 หุ้น คิดเป็น 84.08% ของหุ้นสามัญที่จดทะเบียนและชำระแล้ว บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด 12.50% บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 1.25% และผู้ถือหุ้นอื่นอีก 25 ราย คิดเป็น 2.17%

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า จะให้ยุบควบรวมกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส.) แต่เรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้นายยูเซฟ อิล คัมริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ERW ระบุว่าผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2568 ว่า บริษัท โรงแรมเอราวัณ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ได้เป็นคู่สัญญาเช่าที่ดินกับรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง (บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลัง เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่ปี 2500) เนื้อที่ 9 ไร่ 3 งาน 98.5 ตารางวา เพื่อลงทุนก่อสร้างและดำเนินกิจกรรมโรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2530

โดย “รัฐวิสาหกิจคู่สัญญา” ได้ให้สิทธิแก่บริษัท โรงแรมเอราวัณ มีกำหนดระยะเวลาเช่า 30 ปี (สิ้นสุด 2 ก.ค. 2564) พร้อมด้วยข้อสัญญาให้ต่ออายุสัญญาได้อีก 20 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2530 ซึ่งสัญญาดังกล่าวกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณอัตราค่าตอบแทน สำหรับช่วงระยะเวลา 30 ปี และ 20 ปีไว้แล้ว ทั้งนี้ บริษัท โรงแรมเอราวัณ ได้ใช้สิทธิขอต่ออายุสัญญาฉบับเดิมตั้งแต่ปี 2558

อย่างไรก็ตาม บริษัท สหโรงแรมไทยฯ ได้แจ้งต่อบริษัท โรงแรมเอราวัณ ว่าการต่ออายุสัญญาฉบับเดิม ยังมีการดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้บริษัท สหโรงแรมไทยฯ ได้จัดทำ “โครงการจัดประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และได้แจ้งให้บริษัท โรงแรมเอราวัณ เข้าร่วมในขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว

ล่าสุด บริษัท สหโรงแรมไทยฯ ยังดำเนินการต่ออายุสัญญาฉบับเดิมไม่แล้วเสร็จ จึงได้ตกลงทำบันทึกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกับบริษัท โรงแรมเอราวัณ โดยตกลงรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้กิจการโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ยังดำเนินต่อไปได้ราบรื่นในระหว่างที่รอ บริษัท สหโรงแรมไทยฯ ซึ่งเป็นคู่สัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่ออายุสัญญาฉบับเดิม

“เมื่อไม่นานมานี้ รัฐวิสาหกิจคู่สัญญาแจ้งแก่ โรงแรมเอราวัณว่า ทางรัฐวิสาหกิจดังกล่าวได้แจ้งให้หน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ ดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ในขั้นตอนต่อไปแล้ว แต่บริษัท โรงแรมเอราวัณ พบว่าขณะนี้รัฐวิสาหกิจยังไม่ได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ทำให้การลงนามต่ออายุสัญญาฉบับเดิม เลยกำหนดเกิดความล่าช้า” นายยูเซฟ อิล คัมริ ระบุและว่า

“จึงมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิทางกฎหมายผ่านกระบวนการของศาล เพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย โดยยังประกอบกิจการได้ตามปกติ เนื่องจากมีบันทึกข้อตกลงผูกพันตามสัญญาฉบับเดิม จนกว่าจะมีการลงนามสัญญาฉบับใหม่ตามโครงการจัดประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ”

ทั้งนี้ ในร่างบันทึกข้อตกลง (ฉบับที่ 6) บริษัท โรงแรมเอราวัณ จำกัด (มหาชน) ได้ชำระค่าเช่ารายปีของที่ดินและค่าเช่าอาคารและทรัพย์สินตามโครงการจัดประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมด้วยผลประโยชน์ตอบแทนอื่นตามข้อเสนอการร่วมลงทุนแล้ว สำหรับระยะเวลา 2 ก.ค. 2567-1 ก.ค. 2568 ค่าเช่ารายปีของที่ดิน อาคารและทรัพย์สิน

พร้อมด้วยค่าตอบแทนอื่นจำนวน 90.317 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเช่ารายปี 60.83 ล้านบาท ผลตอบแทนการเช่ารายปี 26.072 ล้านบาท ค่าบริการสถานบริการกัสตอง “สปาสโซ” 2.20 แสนบาท และค่าใช้จ่ายสำนักงานและค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด สำหรับการดำเนินงาน 2.75 ล้านบาท

ที่ผ่านมา บริษัท สหโรงแรมไทยฯ ดำเนินธุรกิจเฉพาะด้านคือ เข้าถือหุ้นร่วมทุนกับ บริษัท โรงแรมเอราวัณ จำกัด (มหาชน) จำนวน 26.36% มีหน้าที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อสถานการค้าว่า “โรงแรมเอราวัณ”

Back to top button