CLSA มองบวก “ค้าปลีก” รับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ชู CPALL-CPAXT เด่น

บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ จำกัด เปิดเผยมุมมองต่อภาคค้าปลีกของประเทศไทยว่า กำลังมีแนวโน้มสดใสขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไป อันเป็นผลจากความคาดหวังต่อนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลชุดใหม่ หลังสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การออกมาตรการส่งเสริมการบริโภคเพื่อฟื้นฟูการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

โดยรัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศและผ่อนคลายภาระครัวเรือน แม้รายละเอียดมาตรการยังไม่ถูกเปิดเผย แต่เชื่อว่าจะครอบคลุมโครงการร่วมจ่ายเพื่อเสริมการใช้จ่าย การลดค่าครองชีพเพื่อเพิ่มรายได้สุทธิ รวมถึงมาตรการสินเชื่อฉุกเฉินหรือพักชำระหนี้ ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องของครัวเรือนและกระตุ้นการจับจ่ายในวงกว้าง หนุนภาคค้าปลีกทั้งรายเล็กและรายใหญ่

ทั้งนี้ แม้โครงการร่วมจ่ายในอดีตจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการขนาดย่อม แต่ CLSA คาดว่าค้าปลีกขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาด เช่น CPAll และ CPAXT จะได้รับประโยชน์ทางอ้อมจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการ B2B อย่าง Makro ที่เคยรับมือวิกฤต COVID-19 ได้ดี ก็อาจได้แรงหนุนอีกครั้งหากสภาพคล่องอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น

พร้อมกันนี้ CLSA ยังยกตัวอย่างบทเรียนจากมาตรการในอดีต เช่น โครงการร่วมจ่ายปี 2563 และมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ปี 2564 ซึ่งแม้จะช่วยเหลือในระดับปานกลาง แต่สามารถกระตุ้นอุปสงค์และผลักดันยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของผู้ค้าปลีกรายใหญ่ให้ฟื้นตัว สะท้อนถึงประสิทธิภาพของนโยบายในช่วงเศรษฐกิจถดถอย

สำหรับแนวโน้มระยะถัดไป CLSA มองว่าภาคค้าปลีกไทยจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ SSSG การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ความเป็นไปได้ของการลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ ทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันกลุ่มค้าปลีก-บริโภคให้กลับมาโดดเด่น โดยเฉพาะหุ้น CPALL และ CPAXT ซึ่งยังมีมูลค่าน่าสนใจและมีโอกาสได้รับอานิสงส์เต็มที่จากทั้งการท่องเที่ยวและมาตรการรัฐ