CV ทวงคืนเงินลงทุนล่วงหน้า 2 ดีล 500 ล้าน จ่อฟ้อง M8H–FI หากเบี้ยวชำระ

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการติดตามและการเรียกคืนเงินจ่ายล่วงหน้าค่าเงินลงทุนในการเข้าซื้อ Fernview Environmental Pty Ltd. (Fernview) จากบริษัท เอ็มแปด โฮลดิ้ง จำกัด (M8H) จำนวน 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และการเรียกคืนเงินจ่ายล่วงหน้าค่าเงินลงทุนในการเข้าซื้อบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพแนนเชียล จำกัด (WTX) จำนวน 4.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก Functional Investment Pte Ltd. (FI) อย่างต่อเนื่องนั้น บริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าปัจจุบัน ดังนี้

1. การเรียกคืนเงินล่วงหน้าค่าเงินลงทุนใน Fernview

บริษัทฯ ได้ชำระเงินล่วงหน้าจำนวน 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สำหรับการเข้าซื้อหุ้น 99,900 หุ้น หรือคิดเป็น 99.9% ของทุนจดทะเบียนของ Fernview อันเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างบริษัทฯ และ M8H โดยข้อตกลงดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่ Fernview อยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการโดยสมัครใจ ซึ่ง M8H ได้เป็นคู่สัญญากับผู้บริหารแผนของ Fernview เนื่องจาก M8H เป็นนิติบุคคลต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ถือครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลีย (Foreign Investment Review Board approval: FIRB approval)

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว M8H ต้องชำระเงินแก่ผู้บริหารแผนของ Fernview เพื่อซื้อกิจการ โดยผู้บริหารแผนได้รับเงินจากนักลงทุนรวม 16 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ไม่รวมค่าใช้จ่าย) ในจำนวนนี้เป็นเงินมัดจำจากบริษัทฯ 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 65% ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดใน Fernview

ต่อมา ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ยกเลิกการเข้าซื้อหุ้น Fernview หลังจากนั้น บริษัทฯ ทราบว่า M8H พยายามขายหุ้นของ Fernview ให้ผู้ซื้อรายอื่น เพื่อนำเงินมาชำระคืนบริษัทฯ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากโครงการก่อสร้างของ Fernview ยังไม่แล้วเสร็จและยังไม่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์

 

ต่อมา การประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2567 วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 มีมติให้เรียกคืนเงินจำนวน 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี (นับจาก 2 เมษายน 2567) จาก M8H และหาก M8H ไม่ชำระภายใน 60 วัน ให้บริษัทฯ ดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งภายหลังครบกำหนด M8H ไม่ได้ชำระเงินตามที่ทวงถาม บริษัทฯ จึงแต่งตั้งทนายความเพื่อเตรียมฟ้องร้อง

อย่างไรก็ดี ต่อมา M8H ติดต่อบริษัทฯ และเสนอวางหลักประกันแทนการชำระเงิน โดยนำหุ้น Fernview จำนวน 69,900 หุ้น มาจำนำ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 38.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ตามการประเมินอิสระ) เพียงพอครอบคลุมหนี้ 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย พร้อมดอกเบี้ยคงค้าง

ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2568 วันที่ 27 มีนาคม 2568 มีมติอนุมัติหลักการรับจำนำหุ้นดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่าการดำเนินคดี และครั้งที่ 6/2568 วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 มีมติอนุมัติการรับจำนำหุ้น Fernview อย่างเป็นทางการ

ปัจจุบัน บริษัทฯ และ M8H อยู่ระหว่างจัดทำและลงนามในเอกสารการจำนำและบันทึกทะเบียนผู้ถือหุ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 31 ตุลาคม 2568 โดยเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 โครงการบ่อฝังกลบขยะ (Landfill) ของ Fernview ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้โครงการ และเอื้อต่อการขายกิจการ Fernview เพื่อนำเงินมาชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยคืนแก่บริษัทฯ ได้เร็วขึ้น

2. การเรียกคืนเงินล่วงหน้าค่าเงินลงทุนใน WTX

ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2567 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ได้อนุมัติให้บริษัทฯ ดำเนินการทางกฎหมายผ่านศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศสิงคโปร์ (Singapore International Arbitration Centre: SIAC) เพื่อเรียกร้องเงินลงทุนล่วงหน้า 4.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก FI

ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดหาที่ปรึกษากฎหมายในประเทศสิงคโปร์ และได้แต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายผู้เชี่ยวชาญเพื่อดำเนินการฟ้องร้อง FI เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อนึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ (มหาชน) หรือ CV ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของกลุ่มบริษัท เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนสะสม มีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน และงวด 9 เดือนปี 2567 มีขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 289% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ บริษัทมีเงินกู้ระยะสั้นที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี ในจำนวนที่มีนัยสำคัญ ในขณะที่มีรายการเกี่ยวกับการด้อยค่าทางด้านสินทรัพย์หลายรายการ ซึ่งอาจกระทบฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน รวมทั้งสภาพคล่องของ CV อย่างมีนัยสำคัญ จึงขอให้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2567 สำหรับความเห็นของคณะกรรมการและกรรมการตรวจสอบภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ CV และติดตามคำชี้แจงของบริษัท

1.ความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มบริษัท โดยหนี้ที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี (54% ของหนี้สินรวม)   มูลค่า 1,533 ล้านบาท  ทั้งนี้มูลค่า 277 ล้านบาท ครบกำหนดแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา และมูลค่า 449 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ครบกำหนดชำระในเดือน ม.ค. 68

2.เงินจ่ายล่วงหน้าค่าเงินลงทุน (เงินมัดจำ) รวม 427 ล้านบาท

2.1 เงินมัดจำการซื้อหุ้น Fernview Environmental Pty Ltd (Fernview) (ณ 30 ก.ย.67 บันทึกด้อยค่าเงินมัดจำ 14% ของมูลค่าเงินมัดจำ) มูลค่า 237 ล้านบาท  โดย 26 พ.ค.66 ลงนามสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดของ Fernview กับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 11 ล้าน AUD โดยจ่ายเงินมัดจำ 95%ของมูลค่าซื้อ ซึ่งขณะนั้น Fernview อยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

16 ม.ค.67 คณะกรรมการมีมติอนุมัติยกเลิกการลงทุน

12 พ.ย.67 คณะกรรมการมีมติเรียกคืนเงินมัดจำภายใน 60 วัน นับจากวันได้รับหนังสือ หากไม่ชำระจะดำเนินการทางกฎหมาย

2.2 เงินมัดจำการซื้อหุ้นของบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเซียล จำกัด (WTX) (ณ 30 ก.ย.67 บันทึกด้อยค่าเงินมัดจำ 17% ของมูลค่าเงินมัดจำ)   มูลค่า 180 ล้านบาท

4 ต.ค.66 ลงนามสัญญาซื้อหุ้น WTX 20% จากบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน มูลค่า 1,040 ล้านบาท โดยจ่ายเงินมัดจำ 17% ของมูลค่าซื้อ

16 ม.ค.67 คณะกรรมการมีมติอนุมัติยกเลิกการลงทุน

27 พ.ย. 67 คณะกรรมการอนุมัติให้ดำเนินการตามกฎหมาย

เงินมัดจำเพื่อซื้อหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง (ณ 30 ก.ย.67 บันทึกด้อยค่าเงินมัดจำทั้งจำนวน)  มูลค่า 10 ล้านบาท

15 ก.ค.65 บริษัทย่อยลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อหุ้นกับบุคคลหนึ่ง

22 ส.ค.66 บริษัทย่อยได้รับหนังสือแจ้งยกเลิกการเพิ่มทุนและ อยู่ระหว่างเจรจาและดำเนินการทางกฎหมาย

3.ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและผลขาดทุนจากการด้อยค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

3.1 ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้า มูลค่า 181 ล้านบาท งวด 9 เดือนปี 67 บริษัทบันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94 ล้านบาท จากสิ้นปี 66 (108%)

3.2 ด้อยค่าสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา มูลค่า 220 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนปี 67 กลุ่มบริษัทพิจารณาแผนธุรกิจของส่วนงานผู้ขายเครื่องจักรและให้บริการวิศวกรรมก่อสร้างและรับรู้ค่าเผื่อการด้อยค่าจากรายได้ที่ยังไม่เรียกเก็บ 220 ล้านบาท จากเดิมไม่มีการตั้งค่าเผื่อดังกล่าว