
รฟม. ลั่น 14 วัน! เปิดถนนสามเสน ขอโทษประชาชนรับปากเยียวยาทุกฝ่าย
รฟม. น้อมรับผิดเหตุถนนทรุดกลางกรุง ผู้ว่าฯ ออกโรงขอโทษผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ยืนยันดูแลเยียวยาเต็มที่ พร้อมรับนโยบาย รมว. คมนาคม สั่งตรวจสอบซ้ำทุกโครงการที่กำลังก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันเหตุซ้ำรอย พร้อมเผยสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากสภาพดินพิเศษ เป็นเหตุสุดวิสัยครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (25 ก.ย. 68) นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมผิวจราจรที่เกิดปัญหาถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามเดิมภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันระหว่าง รฟม. ผู้รับจ้าง และผู้ออกแบบ จะแบ่งการแก้ไขออกเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 จะเร่งคืนพื้นที่ผิวจราจรถนนสามเสน ซึ่งจากการสำรวจดินมีเสถียรภาพพอสมควร การสไลด์มีเล็กน้อย จะเริ่มอุดรูรั่วด้วยการใช้กระสอบทรายเกือบ 5 หมื่นลูก แล้วถมด้วยซีเมนต์ผสม และกลบกลับด้วยทราย เพื่อให้พื้นผิวกลับสู่ระดับปกติ และเปิดการสัญจรโดยเร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์
ระยะที่ 2 แก้ไขซ่อมแซมอุโมงค์กับตัวสถานี รวมทั้งซ่อมแซมอาคารข้างเคียง และ สน.สามเสน ให้กลับมามั่นคงแข็งแรง
นายกาจผจญ ยังระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นสันนิษฐานน่าจะเกิดจากสภาพของดินร่วมกับน้ำที่อยู่ใต้ดิน ทำให้สภาพของดินเปลี่ยนเสถียรภาพเป็นลักษณะพิเศษ ส่งผลให้ท่อประปาที่อยู่ลึก 3 เมตรชำรุด ทั้งน้ำประปาและน้ำเสียรวมกับดินที่สูญเสียเสถียรภาพ ไหลเข้าไปที่ช่องว่างระหว่างสถานีกับอุโมงค์ แรงดันมหาศาลของดินและน้ำทำให้รูขยายวงจนเกิดการทรุดตัวขนาด 30×30 เมตร ลึก 20 เมตร มีดินไหลเข้าไปในโครงสร้างสถานี 50 เมตร และอุโมงค์อีก 10 เมตร
“รฟม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราขอเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรายละเอียดเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินดำเนินการมาเป็น 10 ปี มีเทคนิคมาตรฐานในการดำเนินงานและมืออาชีพ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรกเป็นสถานการณ์พิเศษ“ นายกาจผจญ กล่าว
นายกาจผจญ กล่าวเสริมว่า รฟม.และผู้รับจ้างต้องขออภัยผู้ใช้บริการโรงพยาบาล ผู้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าว ประชาชนที่สัญจรที่ได้รับผลกระทบ รฟม.จะพยายามเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และเยียวยาดูแลผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และได้รับนโยบายจาก รมว.คมนาคมให้ตรวจสอบซ้ำในทุกโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก ซึ่งต้องยอมรับว่าสภาพดินในแต่ละจุดมีความแตกต่างกัน