
เปิดพิมพ์เขียวรัฐบาล “อนุทิน” ชูธง “ปลดล็อกหนี้แสนบาท” สานต่อ “คนละครึ่ง” ลดค่าครองชีพ
นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เตรียมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภา 29 ก.ย. นี้ ชูไฮไลต์แก้ปัญหาปากท้องเป็นวาระเร่งด่วน ประกาศนโยบาย "ปลดล็อกหนี้แสนบาท" ช่วยเหลือหนี้บุคคลในระบบ และอัดฉีดสภาพคล่องให้ SMEs รายละล้านบาท พร้อมเดินหน้าโครงการ "คนละครึ่ง" ควบคู่มาตรการลดค่าครองชีพทั้งค่าพลังงาน-ค่าเดินทาง หวังปลดกับดักหนี้และเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา 29 กันยายนนี้ พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนถึงทิศทางการบริหารประเทศภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย ทั้งสงครามการค้าโลก ปัญหาหนี้ครัวเรือน และข้อพิพาทชายแดน
ไฮไลต์เศรษฐกิจ: แก้หนี้-สร้างรายได้-ลดรายจ่าย
จุดเด่นของนโยบายเศรษฐกิจคือการ “ปลดล็อกหนี้แสนบาท” โดยรัฐบาลจะเร่งช่วยเหลือหนี้รายบุคคลในระบบรายละไม่เกิน 100,000 บาท และเพิ่มสภาพคล่อง SMEs รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อปลดภาระ “กับดักหนี้” ที่กดดันประชาชนมานาน พร้อมกันนี้ จะดำเนินโครงการ “คนละครึ่ง” ต่อเนื่อง ควบคู่กับการลดค่าครองชีพ ทั้งค่าพลังงาน ค่าน้ำดื่ม ค่าโดยสาร และค่าผ่านทาง รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในครัวเรือนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม
จัดตั้ง “ทีมไทยแลนด์” รับมือสงครามการค้า
นอกจากนี้ รัฐบาลแผนจัดตั้ง “ทีมไทยแลนด์” ประกอบด้วยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนการค้าไทย เพื่อรับมือผลกระทบจากสงครามการค้าโลก โดยเฉพาะมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยทีมนี้จะเจรจาเชิงรุกเปิดตลาดใหม่ในตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรปตะวันออก เอเชียใต้ และละตินอเมริกา พร้อมผลักดันไทยเข้าเป็นสมาชิก OECD เพื่อดึงดูดการค้าและการลงทุน
ประกาศชัด “ไม่รับคาสิโน-การพนันทุกรูปแบบ”
ที่น่าสนใจคือ รัฐบาลประกาศจุดยืนชัดเจน ไม่สนับสนุนเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจการพนัน และจะปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง รวมถึงการพนันที่แฝงมาในรูปกีฬาอย่างโป๊กเกอร์ พร้อมแก้ไข พ.ร.บ.การพนันเพื่อควบคุมและลดการอนุญาตให้ได้มากที่สุด
เร่งแก้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา พร้อมทำประชามติ
ด้านความมั่นคง รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชาด้วยแนวทางสันติ โดยจะจัดทำประชามติ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสองประเทศ พร้อมยืนยันรักษาอธิปไตยและเขตแดนไทยตามเส้นเขตแดนสากล
ฟื้นท่องเที่ยว-ดึงนักท่องเที่ยวกลับมา
สำหรับภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลมุ่งฟื้นความเชื่อมั่นด้วยการสร้างความปลอดภัย ปราบปรามการฉ้อโกง พร้อมกระตุ้นให้คนไทยหันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2568 โดยเน้นการท่องเที่ยวเมืองรอง และดึงดูดชาวต่างชาติให้พำนักระยะยาว
แหล่งเงินทุนขับเคลื่อนนโยบาย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การดำเนินนโยบายทั้งหมดจะใช้จ่ายจาก 3 แหล่งหลัก คือ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เป็นหลัก นอกจากยังมีเงินกู้ ภายใต้กรอบวินัยการคลัง รวมถึงการระดมทุนจากภาคเอกชน ผ่านการร่วมลงทุนและกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะเดียวกันในร่างแถลงดังกล่าว ยังมีนโยบายอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ เปิดให้ประชาชนซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้สะดวก สร้างรายได้จากดอกเบี้ย , พัฒนาสลากเพื่อการออม กันเงินส่วนหนึ่งให้ผู้ไม่ถูกรางวัลมีเงินออม , ประกาศเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (ค.ศ.2050) , เร่งพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค (Guillotine) , ปฏิรูปจังหวัดชายแดนใต้ เน้นความปลอดภัยควบคู่พัฒนาเศรษฐกิจ
“กระผมจะดำเนินการทุกวิถีทางในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ พร้อมวางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชนชาวไทย” นายอนุทินกล่าวทิ้งท้าย