
โบรกอัพเป้า EGCO ใหม่ 176 บาท รับขยายพอร์ตลินเดน 38% ดันกำไรพุ่งปีละ 300 ล้าน
โบรกแนะนำ “ซื้อ” หุ้น EGCO เป้าใหม่ 176 บาท หลังเดินหน้าขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าในสหรัฐ Linden Cogen หนุนถือแตะ 38% หนุนกำไรปีนี้เพิ่ม 140-150 ล้านบาท และรับรู้เต็มปี 69 ประมาณ 300 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 ต.ค.68) นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท EGCO Linden II, LLC. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EGCO ถือหุ้นทั้งหมดและจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในสัญญา Equity Purchase Agreement กับบริษัท HPJV1 LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท Linden TopCo LLC (Linden TopCo) เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในสัดส่วน 10% ใน Linden TopCo เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน (Linden Cogen) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา
โดยภายหลังจากการลงทุนดำเนินการแล้วเสร็จ EGCO Linden II, LLC. จะมีสัดส่วนการลงทุนใน Linden TopCo เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 28% เป็น 38% โดยการลงทุนดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากดำเนินการเงื่อนไขต่าง ๆ ภายใต้สัญญา Equity Purchase Agreement เสร็จสิ้น
ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ EGCO ทั้งด้านรายได้จากเงินปันผลและกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นทันที และการมีอำนาจในการกำกับดูแลการตัดสินใจที่สำคัญมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหาร ต้นทุนในด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน การดำเนินงาน การตลาด และการพัฒนาโครงการในอนาคต นอกจากนี้ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ EGCO ในการเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอการลงทุนในตลาดพลังงานสหรัฐฯ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท
สำหรับโรงไฟฟ้า Linden Cogen ขนาดกำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 1-5 กำลังผลิตรวม 800 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 180 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้แก่ตลาดซื้อขายไฟฟ้า PJM PSEG ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ตลาดไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง เป็นตลาดที่มีความต้องการไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าสำรองสูงที่สุดในสหรัฐฯ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า Linden Cogen ยังมีสัญญาขายไอน้ำและไฟฟ้าระยะยาวกับผู้รับซื้อรายใหญ่ ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน
“การลงทุนเพิ่มในโรงไฟฟ้า Linden Cogen สะท้อนถึงการเสริมสร้างสถานะเชิงกลยุทธ์ของ EGCO ในตลาดพลังงานของสหรัฐฯ พร้อมทั้งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 924 เมกะวัตต์ โดยการลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่มีบทบาทสำคัญในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในระยะยาว ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าว คาดว่าจะช่วยสร้างการเติบโตของรายได้และความสามารถในการทำกำไรของ EGCO อย่างต่อเนื่อง” นายธวัชชัย กล่าว
ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 ยังประสบความสำเร็จในการทดสอบเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงผสม (Hydrogen co-firing) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่โรงไฟฟ้า Linden Cogen จะเป็นหนึ่งในโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ของ EGCO ซึ่งมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 10% ภายในปี ค.ศ. 2030 และพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนร่วมในระบบผลิตไฟฟ้า เมื่อรวมการลงทุนล่าสุดนี้ EGCO มีการลงทุนในต่างประเทศครอบคลุมสหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สปป.ลาว เกาหลีใต้ และไต้หวัน ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของโครงสร้างรายได้ในระยะยาวของ EGCO
โดยปัจจุบัน EGCO (ยังไม่นับรวมกำลังผลิตจากการเข้าถือหุ้นเพิ่มใน Linden Cogen) มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,735 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,535 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 23% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่
ปัจจุบัน EGCO ลงทุนในสหรัฐฯ หลายโครงการ ทั้งในโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น “ลินเดน โคเจน” ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ตั้งอยู่ที่เมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์, บริษัท เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง (เอเพ็กซ์) ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และลงทุนพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้า “คัมแพซ”
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าลินเดน เพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้จะอยู่ที่ 140-150 ล้านบาท และปี 2569 จะได้กำไรเต็มปีที่ 300 ล้านบาท หรือประมาณ 2-4% ของประมาณการ
ขณะที่ EGCO ยังมีมูลค่าซ่อนอยู่จากการถือหุ้น 60% ใน PT Chandra Daya Investasi Tbk (CDIA) บริษัทพลังงานอินโดนีเซีย โดยราคาหุ้น CDIA ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจาก 256 รูเปียห์อินโดนีเซีย (IDR) ต่อหุ้น เมื่อเริ่มเทรดวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดอยู่ที่ 2,200 IDR ต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ CDIA อยู่ราว 290 ล้านล้าน IDR หรือประมาณ 5-6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้หากคิดย้อนกลับตามสัดส่วนการถือหุ้น 60% ของ EGCO จะมีมูลค่าตลาดราว 3-4 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดของ EGCO เองที่อยู่ 6 หมื่นล้านบาท
นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของ EGCO สำหรับปี 2568-2570 เพิ่มขึ้น 3.6%/2.1% และ 1.7% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น 10% ในโรงไฟฟ้าลินเดน
นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 155 บาท เป็น 176 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น คาดว่ากำไรต่อหุ้นและมูลค่าของ EGCO มีศักยภาพที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก เนื่องจากแนวโน้มกำไรสุทธิที่เติบโตสูงอย่างชัดเจน
โดยความต้องการใช้ไฟฟ้ากลุ่ม AI ในสหรัฐฯ ยังเป็นแรงหนุนสำคัญให้ EGCO โดยบริษัทมีโรงไฟฟ้าก๊าซ Linden ตั้งอยู่ในเขต PJM Interconnection ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโตเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของซัพพลายมากที่สุดในตลาดไฟฟ้าย่อยของสหรัฐฯ
ขณะที่โรงไฟฟ้า Linden ทำสัญญาขายไฟในอัตราค่าบริการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ยังมีโอกาสสร้างอัพไซด์อีก 20-30% จาก ค่า Capacity Payment ที่พุ่งขึ้นกว่า 10 เท่าใน “ตลาดไฟฟ้าเสรี” หรือ PJM โดยจะขยับจาก 270 ดอลลาร์สหรัฐ/เมกะวัตต์-วัน (พ.ค. 2568-พ.ค. 2569) ไปเป็น 320 ดอลลาร์สหรัฐ/เมกะวัตต์-วัน (พ.ค. 2569-พ.ค. 2570)
นอกจากอัพไซด์จาก Linden แล้ว ในเดือนมิถุนายน 2568 EGCO ยังได้ต่อยอดการเติบโตในสหรัฐฯ ด้วยการเข้าซื้อหุ้น 49% ใน Apex Pinnacle II ซึ่งประกอบด้วยโครงการ Downeast Wind 126 MW และ Wheatborough Solar 125 MW ทั้งนี้ Apex เป็นผู้พัฒนาและผู้ดำเนินงานโครงการพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ ที่มีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 2.7 กิกะวัตต์ในปี 2569
รวมทั้งกำไรจากการเข้าถือหุ้น 30% ใน PT Chandra Daya Investasi Tbk (CDI) ปัจจุบันมีมูลค่า 136,200 ล้านบาท เทียบกับต้นทุนเดิมเพียง 6,800 ล้านบาท หมายถึงมีกำไรที่ยังไม่รับรู้ (Unrealized Gain) ประมาณ 258.8 บาทต่อหุ้น EGCO มองว่าเป็นหนึ่งในตัวเร่ง (Catalyst) สำคัญต่อการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น EGCO เมื่อราคาตลาดของ CDI เคลื่อนไหว
กลยุทธ์การเติบโตใหม่ เน้นขยายต่างประเทศ คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น EGCO ที่ราคาเป้าหมาย 176 บาท (จากเดิม 155) โดยมีฐานจากอัพไซด์จากโรงไฟฟ้าก๊าซและพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ กำไรที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนใน CDI มูลค่า 136,200 ล้านบาท รวมทั้งอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) มากกว่า 5% ถือว่าน่าสนใจท่ามกลางแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงทั้งในสหรัฐฯ และไทย