
GCAP GOLD ชี้ “ทองคำ” พักฐานชั่วคราว แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ”
GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำย่อตัวหลังพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ 4,380 เหรียญ เหตุตลาดคลายกังวลภาษีจีน–สหรัฐฯ แต่ยังได้แรงหนุนจากวิกฤตธนาคารภูมิภาค แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” แนวรับ 4,070–4,000 เหรียญ
บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 2% หลังจากทำสถิติสูงสุดใหม่บริเวณ 4,380 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก่อนปิดตลาดที่ราว 4,250 ดอลลาร์ โดยแรงเทขายส่วนหนึ่งมาจากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ส่งสัญญาณผ่อนปรนต่อการจัดเก็บภาษีสินค้าจีน โดยระบุว่า “การเก็บภาษีเต็มรูปแบบต่อจีนอาจไม่ยั่งยืน” ทำให้ตลาดคาดหวังถึงโอกาสการกลับมาเจรจาทางการค้าระดับรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ที่ประเทศมาเลเซีย และอาจขยายสู่การหารือระดับผู้นำช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำในระยะสั้น
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ของ GCAP GOLD กล่าวว่า แม้ราคาทองคำเผชิญแรงขายทำกำไรจากสัญญาณเชิงบวกด้านการค้า แต่สถานการณ์ตลาดการเงินสหรัฐฯ กลับเริ่มเปราะบาง หลังธนาคารภูมิภาคหลายแห่ง เช่น Zions Bancorp และ Western Alliance Bancorp เผชิญความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อที่ถูกฉ้อโกงในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงด้วยการขายหุ้นกลุ่มธนาคารและหันกลับมาถือทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะข้างหน้า GCAP GOLD ระบุว่า ได้แก่ (1) ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) ซึ่งหากออกมาสูงกว่าคาดอาจกดดันทองคำระยะสั้น แต่หากต่ำกว่าคาดจะช่วยหนุนความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) (2) ผลประกอบการธนาคารภูมิภาคสหรัฐฯ รอบใหม่ เช่น East West Bancorp, Western Alliance และ Zions ซึ่งหากออกมาแย่กว่าคาดอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบการเงิน และ (3) ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยหากการหารือระหว่างทรัมป์กับนายสี จิ้นผิง มีแนวโน้มเชิงบวก อาจทำให้แรงซื้อทองคำลดลงชั่วคราว แต่หากเกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นจะยิ่งหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ของ GCAP GOLD ยังคงแนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับ 4,070–4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (คิดเป็นราคาทองคำไทยราว 63,300–62,500 บาทต่อบาททองคำ) โดยมองว่าทองคำยังอยู่ในภาวะพักฐานภายในแนวโน้มขาขึ้น และหากราคายังยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 3,970 ดอลลาร์ได้ (ราว 61,500 บาท) จะคงทิศทางเชิงบวกต่อเนื่อง ขณะที่แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 4,200 และ 4,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 65,000–66,500 บาทต่อบาททองคำ)