MRDIYT เคาะไอพีโอ 8.60 บาท ระดมทุน 5.6 พันล้าน ขึ้นแท่น IPO ใหญ่สุดปี 68
MRDIYT เคาะราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 8.60 บาท/หุ้น ระดมทุนกว่า 5.6 พันล้านบาท ขึ้นแท่น IPO ใหญ่สุดของไทยปี 2568 เตรียมลงสนามเทรดวันที่ 5 พ.ย.68
บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MRDIYT ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ประกาศราคาขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 8.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับบนสุดของช่วงราคาเสนอขาย สะท้อนถึงกระแสตอบรับที่แข็งแกร่งจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการเสนอขายในครั้งนี้มีมูลค่ารวมกว่า 5.6 พันล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) หลังเข้าซื้อขายที่ 51.7 พันล้านบาท ถือเป็น IPO ใหญ่ที่สุดของไทยในปี 2568 และสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568
เงินที่ได้รับจากการระดมทุนจะนำไปเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเฉพาะการลดภาระหนี้สิน และสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทผ่านการขยายสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 500 แห่งภายใน 3 ปี พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเป้าหมายขยายสาขาให้ครบกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2570
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นของ MRDIYT จำนวน 655 ล้านหุ้น ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนถึงพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและศักยภาพเติบโตในฐานะผู้นำค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของไทย
ด้านนายกนต์ธีร์ ประเสริฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า MRDIYT เป็นผู้นำตลาดค้าปลีกที่ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Always Low Prices” มุ่งเน้นสินค้าคุณภาพในราคาคุ้มค่า และเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ โดยมีนักลงทุนสถาบันระดับโลกเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นรายสำคัญ เช่น BBL Asset Management, InnovestX, FIL Investment Management, Fiera Capital (UK) และ Lion Global Investors
ขณะที่นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MRDIYT กล่าวย้ำว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่อโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ระยะยาว พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าให้ผู้ถือหุ้นและยกระดับคุณภาพชีวิตลูกค้าทั่วประเทศ
