“ดาวโจนส์” ปิดลบ 110 จุด หุ้น Meta-Microsoft ฉุดตลาด กังวลเฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบยกแผงในวันพฤหัสบดี หลังหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ Meta และ Microsoft ร่วงแรง จากแรงกดดันเรื่องการเพิ่มงบลงทุน AI และต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟด เพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมต่อ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีหลักทั้งสามของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.68) ปิดลบ หลังนักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธันวาคม ขณะเดียวกันหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวลงแรงกดดันตลาดโดยรวม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 47,522.12 จุด ลดลง 109.88 จุด หรือ -0.23%
ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,822.34 จุด ลดลง 68.25 จุด หรือ -0.99%
ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,581.14 จุด ลดลง 377.33 จุด หรือ -1.57%

แรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ซึ่งมีน้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้มากร่วงลงแรงที่สุด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ซึ่งมีสัดส่วนหุ้นอุตสาหกรรมและการเงินมากกว่า ได้รับผลกระทบจำกัด

หุ้น Meta Platforms ร่วงลง 11.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปี นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์งบลงทุนด้านทุน (Capital Expenditure) ปี 2569 เป็น 7.0–7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากประมาณการเดิม 6.6–7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเร่งพัฒนาเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้นักลงทุนวิตกว่าการใช้จ่ายสูงอาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น

ขณะเดียวกัน หุ้น Microsoft ร่วง 2.9% หลังเปิดเผยว่า บริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านทุนเกือบ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2569 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน AI และคลาวด์ (Cloud)

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งกล่าวระหว่างงานสัมมนาที่กรุงวอชิงตันว่า เฟดยังไม่มั่นใจเพียงพอว่า ควรผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่

พาวเวลล์ย้ำว่า การตัดสินใจครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรากฏในช่วงที่เหลือของปี ส่งผลให้ตลาดลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้

ทั้งนี้ ตลาดแทบไม่มีปฏิกิริยาต่อข่าวที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

โดยทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯ จะปรับลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลงเหลือ 47% จากเดิม 57% เพื่อแลกกับการที่จีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ รวมทั้งอนุญาตให้ส่งออกแร่หายาก (Rare Earths) อีกครั้ง และเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดล้างการค้าเฟนทานิลที่ผิดกฎหมาย

Back to top button