TTCL ยื่นศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ เหตุสภาพคล่องตึงตัว-หนี้ทะลุ 1.4 หมื่นล้าน

บอร์ด TTCL มีมติยื่นศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ หลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องและหนี้สินกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท วางแนวทางฟื้นฟู 5 ด้าน ทั้งเจรจาเจ้าหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ หาเงินทุนใหม่ ขายสินทรัพย์ และขยายธุรกิจวิศวกรรม FEED–O&M เพื่อเสริมความมั่นคงทางการ


บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 มีมติอนุมัติให้บริษัทในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยได้ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง

โดยบริษัทขอเรียนชี้แจงสรุปสาระสำคัญของคำร้องฟื้นฟูกิจการดังนี้

1.เหตุผลและความจำเป็นที่บริษัทในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศอยู่ในช่วงชะลอตัว เกิดปัญหาสงครามทางการค้าและ การตั้งกำแพงภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบกับความไม่มั่นคงทางการเมืองทั้งในและ ต่างประเทศ ดังต่อไปนี้

1.1 บริษัทประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่มีกระแสเงินสดเพียงพอที่ใช้ดำเนินธุรกิจ เนื่องจากคู่ค้าผิดนัดชำระเงินค่าก่อสร้าง รวมเป็นจำนวนกว่าหลายพันล้านบาท (ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ใน ระหว่างการเจรจาและฟ้องคดีกับเจ้าของโครงการดังกล่าว)

1.2 บริษัทได้รับงานก่อสร้างใหม่ลดลง เนื่องจากเจ้าของโครงการมีการยกเลิกการลงทุน และชะลอการ ลงทุน เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินธุรกิจก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

1.3 บริษัทมีหนี้สินที่ถึงกำหนดชำระและไม่สามารถชำระให้แก่เจ้าหนี้ได้อีกจำนวนหลายราย ซึ่งได้แก่ สถาบันการเงิน บริษัทคู่ค้าและเจ้าหนี้หุ้นกู้

1.4 กิจการของบริษัทมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างหนัก เช่น ปิโตรเคมี และโรงไฟฟ้า ใน ประเทศไทย เนื่องจากบริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในวงการธุรกิจการออกแบบวิศวกรรม การจัดหา เครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงานแบบครบวงจร มาเป็นเวลายาวนานกว่า 40 ปี

1.5 บริษัทมีความสำคัญต่อบุคคลอื่นหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องและมีผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมาก เช่น บริษัท ผู้รับเหมารายย่อย บริษัทค้าวัสดุก่อสร้าง ห้างร้านที่จัดจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัท รวมถึงผู้ถือหุ้น สามัญและผู้ถือหุ้นกู้ และ 1.6 การฟื้นฟูกิจการจะช่วยการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ ได้แก่ เจ้าหนี้สถาบันการเงิน เจ้าหนี้ หุ้นกู้ และเจ้าหนี้การค้า ให้มีความเป็นธรรมแก่เจ้าหนี้ทุกกลุ่ม และสามารถดำเนินการได้ภายในกรอบที่กฎหมายกำหนด

2.บริษัทเสนอให้บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง

3.แนวทางของการฟื้นฟูกิจการของบริษัท ในเบื้องต้นมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

3.1 ทำการเจรจากับเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ เช่น เจ้าหนี้สถาบันการเงิน เจ้าหนี้หุ้นกู้ และเจ้าหนี้การค้า เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ค้างในการชำระ เช่น การขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ การผ่อนผันชำระคืนเงินต้น เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดและแหล่งเงินทุนที่จะสามารถนำมาชำระหนี้ได้

3.2 การหาเงินทุนเพิ่มเติม ทั้งในรูปแบบของการหาเงินกู้ หรือการหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ เพื่อให้สามารถชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ได้เร็วขึ้น อันจะทำให้เจ้าหนี้ได้รับเป็นประโยชน์สูงสุด

3.3 การขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้

3.4 การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ โดยขยายขอบเขตการให้บริการธุรกิจที่เน้นงานด้านบริการวิศวกรรม (Engineering Services) เช่น งานออกแบบส่วนหน้า (Front-End Engineering Design:FEED) งานบริหารโครงการ (Project management: PM) และงานเดินเครื่องและบำรุงรักษา(Operation and Maintenance: O&M) ซึ่งงานให้บริการดังกล่าวไม่มีต้นทุนทางการเงินที่สูง และมีอัตราการทำผลกำไรสูงกว่าธุรกิจ EPC

3.5 รับเงินปันผลของบริษัทย่อยของบริษัทได้แก่ บริษัท ทีทีซีแอล (ประเทศเวียดนาม) (TTCL VietnamCorporation Limited) บริษัท เอ็นที ไบโอแมส โปรดักส์ จำกัด และบริษัท อริยะ ไปโอฟูแอล จำกัดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้

ตามข้อมูลแสดงฐานะการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมเป็นจำนวน 722.19 ล้านบาท หนี้สินรวมเป็นจำนวน 14,336.35 ล้านบาท และสินทรัพย์รวมเป็นจำนวน 15,058.54 ล้านบาทถึงแม้ว่าบริษัทจะมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน แต่เนื่องด้วยบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวมเป็นจำนวน 587.60 ล้านบาท แต่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของบริษัทไม่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ภายในระยะสั้น

ดังนั้นการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทจะช่วยให้บริษัทแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกฎหมายรองรับ และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม อีกทั้ง บริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อการแก้ไขปัญหาของบริษัท และสร้างผลกำไรจากการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง

บริษัทจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป

Back to top button