
PLANB เด้ง 5% เก็งงบ Q3 กำไรแตะ 284 ล้านบาท รับโฆษณาสื่อนอกบ้านหนุน
PLANB เด้ง 5% นักลงทุนเก็งกำไร หลังบล.กรุงศรี คาดกำไร Q3/68 แตะ 284 ล้านบาท เติบโตทั้งจากช่วงปีก่อน และจากไตรมาสก่อน มาจากรายได้ค่าโฆษณาสื่อนอกบ้าน พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้า 7.50 บาท รองรับโอกาสเติบโตธุรกิจมวยและ Dividend Yield 4%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 พ.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ณ เวลา 10:51 น. อยู่ที่ระดับ 4.40 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 5.26% สูงสุดที่ระดับ 4.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 93.30 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่า PLANB จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ 284 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน) เติบโตเล็กน้อยทั้งจากงวดเดียวของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากรายได้หลัก (83% ของรายได้) ที่มาจากรายได้ค่าโฆษณาสื่อนอกบ้านซึ่งยังเติบโตเล็กน้อย เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน ภายใต้กำลังการให้บริการสื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่อัตราการใช้สื่อโฆษณาลดลงเล็กน้อย (73% เทียบกับไตรมาส 3/67/ไตรมาส 2/68 ที่ 76%/73%)
ส่วนรายได้การตลาดแบบมีส่วนร่วมคาดว่าจะลดลง 47% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน (แต่เพิ่มเล็กน้อยเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน) เนื่องจากปีก่อนมีรายได้จากการบริหารสิทธิ์กีฬาที่โอลิมปิก (427 ล้านบาท) แต่ปีนี้ไม่มี อย่างไรก็ตาม การลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ของรายได้ส่วนนี้มีผลต่อผลประกอบการรวมไม่มากเพราะอัตรากำไรต่ำ
ทั้งนี้รวม 9 เดือนแรกของปี 68 คาดว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 747 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากรายได้ค่าโฆษณาสื่อนอกบ้านที่เติบโต เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน
โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/68 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล จากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มขึ้นเป็น 75% แต่คาดว่ากำไรจะลดลงเล็กน้อยจากงวดเดียวของปีก่อน ตามการชะลอตัวของภาวะอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอัตราการใช้สื่อยังลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 81% (แต่กำไรลดลงไม่มากเพราะยังได้กำลังการให้บริการสื่อโฆษณาเพิ่ม +6% จากงวดเดียวของปีก่อนหนุน)
สำหรับปรับประมาณการกำไรปี 68–70 ลงลด 4% ถึงลดลง 7% สะท้อนอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาด และกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่สูงกว่าคาดใน 9 เดือนแรกของปี 68
นอกจากนี้ ได้รวมโอกาสจากการเป็นตัวแทนขายสื่อให้ VGI และการลงทุน 50% ใน Hello Bkk เข้าในประมาณการ (กำไรสุทธิต่อหุ้นลดลง -11% ถึง -14% จากผลกระทบ Dilution effect -6% จากการเพิ่มทุน PP 286 ล้านหุ้น)
ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายปี 68 เป็น 7.50 บาท ตามประมาณการกำไรที่ปรับลดลง และรวมผลกระทบ Dilution effect จากการเพิ่มทุน PP ยังคงประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF โดยใช้ WACC 9.4% เทียบเท่า PE 32.5 เท่า
โดยยังชอบ PLANB จากการเป็นผู้ให้บริการสื่อนอกบ้านที่ครอบคลุมการเดินทางตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงที่ทำงาน อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตจากธุรกิจมวย (RWS) ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้นมองว่าราคาหุ้น PLANB ซื้อขายที่ PE ปี 68 เพียง 16.5 เท่าต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต และคาดให้ Dividend Yield 4% ต่อปี ถือเป็นโอกาสเข้าลงทุน

