
“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนชะลอการซื้อขาย หลังขาดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ช่วงชัตดาวน์
“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนหลังสหรัฐ ยังไม่เผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากภาวะชัตดาวน์ แม้สภาผู้แทนราษฎรผ่านงบชั่วคราวแล้วและรอประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายในช่วงเวลาที่ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีเพียงจำกัด ซึ่งส่งผลให้แนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความไม่ชัดเจน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 51,013.15 จุด ลดลง 50.16 จุด หรือ -0.10%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,779.48 จุด ลดลง 143.25 จุด หรือ -0.53% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,996.51 จุด ลดลง 3.63 จุด หรือ -0.09%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวลง 0.25% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขยับขึ้น 0.1%
ขณะนี้ฤดูกาลเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ใกล้จะสิ้นสุดลง นักลงทุนจึงหันไปจับตาความเคลื่อนไหวของเฟดและแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะเกิดขึ้น แต่การขาดข้อมูลบ่งชี้ที่สำคัญ เช่น ตัวเลขการว่างงาน และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนตุลาคม ส่งผลให้นโยบายการเงินของเฟดเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำเนียบขาวยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่มีการเผยแพร่ เนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลยังคงปิดทำการ หรือชัตดาวน์
อย่างไรก็ดี สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติด้วยคะแนนเสียง 222 ต่อ 209 ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้วในช่วงค่ำวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ (12 พ.ย.) ซึ่งจะทำให้การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ สิ้นสุดลง
ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกส่งให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยทำเนียบขาวได้กำหนดการลงนามร่างกฎหมายที่ห้องทำงานรูปไข่ในเวลา 21.45 น. ตามเวลาสหรัฐฯ
การลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสภาผู้แทนราษฎรมีขึ้น หลังจากที่วุฒิสภาได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ (10 พ.ย.) เพื่อยุติการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.

