
CGSI แนะซื้อ AMATA เป้าใหม่ 23.10 บาท อัพยอดโอนที่ดินปีนี้ 1,812 ไร่
CGSI แนะนำ “ซื้อ” AMATA ราคาเป้าหมายใหม่ 23.10 บาท พร้อมปรับเพิ่มเป้ายอดโอนทั้งปีเป็น 1,812 ไร่ หนุนแนวโน้มรายได้เติบโตชัดเจน
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1.14 พันล้านบาท เติบโตถึง 714 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ 48.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 678 ไร่ ส่งผลให้กำไรสุทธิสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์และ Bloomberg consensus ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ และ 12.3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดินสูงกว่าคาด ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารและอัตราภาษีต่ำกว่าคาด รวมถึงขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่าคาด ทั้งนี้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก อยู่ที่ 2.11 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.4 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 70.9 เปอร์เซ็นต์ของประมาณการทั้งปีล่าสุด
ไตรมาส 3 ปี 2568 AMATA โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 172 ไร่ในไตรมาสก่อนหน้า และจาก 452 ไร่ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นการโอนจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 จำนวน 460 ไร่ อัตรากำไรขั้นต้นรวมจากการขายที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 47.5 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าไตรมาสก่อนที่ 46.9 เปอร์เซ็นต์ และไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ 38.3 เปอร์เซ็นต์ โดย GPM ของอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 อยู่ที่ 45 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 47–50 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 4 ปี 2568 ถึงปี 2569 ขณะที่ GPM ของโครงการ Amata City Long Thanh อยู่ในระดับสูงที่ 47.9 เปอร์เซ็นต์
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ AMATA โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินรวม 1,127 ไร่ เพิ่มขึ้นจาก 766 ไร่ในปีก่อน ส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเป้ายอดโอนที่ดินปีนี้ขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1,812 ไร่ ทำให้ยอดโอนในไตรมาส 4 ปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 685 ไร่ ขณะเดียวกัน AMATA มียอดงานในมือรวม 22,500 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 ประกอบด้วยไทย 20,700 ล้านบาท และเวียดนาม 1,800 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมรายได้จากการขายที่ดินแล้วกว่า 100.8 เปอร์เซ็นต์ ของประมาณการในช่วงปี 2568–2570
อย่างไรก็ดี ยอดขายที่ดินใหม่ในช่วง 9 เดือนลดลงจาก 2,008 ไร่ในปีก่อน เหลือ 990 ไร่ แต่ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการยอดขายที่ดินปีนี้ที่ 1,380 ไร่ คาดยอดขายไตรมาส 4 เพิ่มเป็น 390 ไร่ จากความต้องการในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และศูนย์ข้อมูล ทั้งยังมีโอกาสขายเพิ่มอีก 700 ไร่ แบ่งเป็น 500 ไร่ในไทย และ 200 ไร่ในเวียดนาม โดยมีความต้องการจากกลุ่มอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมยา
ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 2568–2570 เพิ่มขึ้น 7.9–14.1 เปอร์เซ็นต์ ตามการปรับสมมติฐานยอดโอนที่ดิน รายได้ค่าสาธารณูปโภค อัตรากำไรขั้นต้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม พร้อมเลื่อนปีฐานการประเมินเป็นปี 2569 ส่งผลให้ราคาเป้าหมายใหม่เพิ่มเป็น 23.10 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร 8.4 เท่าในปี 2570 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีความเสี่ยงด้านลบจากความล่าช้าในการส่งมอบที่ดินของรัฐบาลเวียดนาม และการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนปัจจัยบวกสำคัญ ได้แก่ ยอดขายที่ดินใหม่และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด
