
SJWD กำไรไตรมาส 3 ทรงตัว 257 ล้านบาท รับรายได้ดอกเบี้ย-เงินปันผลหนุน
SJWD รายงานกำไรไตรมาส 3 ทรงตัว 257 ล้านบาท หนุนงวด 9 เดือนแตะ 905 ล้านบาท รับรายได้ดอกเบี้ย และเงินปันผลหนุน คาดแนวโน้มไตรมาส 4 ฟื้นตัวแรงจากไฮซีซัน
บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
สำหรับไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,252.5 ล้านบาท ลดลง 185.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 จากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการชะลอตัวของกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้ากลุ่มโภคภัณฑ์ (Commodity) และกลุ่มคลังสินค้าและบริหารลานจอด (Automotive Yard & Warehouse Management) ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจให้บริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศครบวงจร (Freight) ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าระวางเรือและอุปสงค์ทางการค้าระดับโลกที่ชะลอตัว ส่วนธุรกิจขนส่งข้ามแดน (Cross Border) มีรายได้ลดลงจากการปิดด่านไทย–กัมพูชาชั่วคราวซึ่งกระทบต่อปริมาณงานในช่วงปลายไตรมาส
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบางกลุ่มยังมีการเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะธุรกิจคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็ง (Cold Storage) ซึ่งมีปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจให้บริการขนย้ายทั้งในและต่างประเทศ (Relocation) ยังมีรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบปีต่อปี (YoY) ส่งผลให้รายได้รวมไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.1 จากการขยายพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าทั่วไปที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
ด้านผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 19,128.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 759.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของธุรกิจหลักหลายกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์ในต่างประเทศที่เติบโตจากการขยายเครือข่ายและฐานการให้บริการในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาสนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจ และเป็นฐานสำคัญสำหรับการฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568 ซึ่งเข้าช่วงฤดูกาลธุรกิจ (High Season) พร้อมแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจหลักที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ย เงินปันผล และรายได้อื่นรวม 65.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ดังกล่าวเพิ่มขึ้น 10.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.7 สะท้อนการเติบโตของรายได้จากสินทรัพย์ทางการเงินและการรับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ย เงินปันผล และรายได้อื่นรวม 165.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (9M/2567) โดยเป็นผลจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิใหม่ที่ดำเนินการโดยผู้ประเมินอิสระ ภายหลังจากที่บริษัทย่อย เบญจพร แลนด์ (BJL) เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท แอลฟา อินดัส เทรียล แอสเซท (AAS) ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็นร้อยละ 73.1 และทำให้ AAS กลายเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ การประเมินมูลค่าดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม (Fair Value Gain) จำนวน 48.1 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม 508.2 ล้านบาท ลดลง 20.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงวด 9 เดือนปี 2568 อยู่ที่ 1,554.4 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 333.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.7 จากงวดเดียวกันของปี 2567 การลดลงดังกล่าวเกิดจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายในองค์กรที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการตัดจำหน่ายทรัพย์สิน (Write-off) และรายการอื่น ๆ ในไตรมาส 2/2567 จำนวน 239.2 ล้านบาท บริษัทฯ จะมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 94.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงผลสำเร็จของการดำเนินกลยุทธ์ด้านการปรับโครงสร้างต้นทุน ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนบุคลากร การลดค่าใช้จ่ายทั่วไป และการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการบริหารจัดการ เพื่อรักษาระดับค่าใช้จ่ายให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมตามแผนที่กำหนดไว้

