
“วิทัย” ห่วงบาทแข็งเร็ว! ชี้เป้า “ธุรกรรมทอง” ตัวการป่วนตลาด สั่งคุมเข้มทันที
ผู้ว่าการ ธปท. ห่วงค่าเงินบาทแข็ง สั่งธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดตรวจธุรกรรม “เงินดอลลาร์-ทองคำ” แลกซื้อเงินบาท หลังพบบางช่วงถี่ถึง 20%
ผู้สี่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ธ.ค.68) นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2568 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.5% โดยสาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และแรงกดดันจากปัจจัยเฉพาะช่วงท้ายปี ที่ทำให้มีเงินไหลเข้าสูงขึ้น ทั้งจากการท่องเที่ยว การส่งออก และการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร
นอกจากนี้ ธุรกรรมจากกลุ่มผู้ค้าทองคำที่มีการขายเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อเงินบาทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า ได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบเอกสารในการขายเงินตราต่างประเทศเพื่อแลกซื้อเงินบาทจากธุรกิจทองคำอย่างเข้มงวด และอยู่ระหว่างการขอให้กระทรวงการคลังออกประกาศเพื่อให้อำนาจ ธปท. ในการเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่
ธปท. ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อเงินบาท เนื่องจากในบางช่วงพบว่า ธุรกรรมของธุรกิจทองคำมีสัดส่วนสูงถึง 20% ของการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างชัดเจน
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวย้ำว่า ธปท. จะเข้าตรวจสอบการทำธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อเงินบาทอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์และไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปกติ รวมถึงการโอนเงินของบุคคลธรรมดา โดยจะให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศอย่างเคร่งครัด
นายกฯ สั่ง “เอกนิติ-ศุภจี” สมทบแบงก์ชาติ คุมบาทแข็งเร็ว
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงข้อสั่งการล่าสุดของนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์หารือร่วมกับ ธปท. เกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขายทองคำทุกรูปแบบ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนายเอกนิติระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้รับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรีและกำลังเตรียมการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“เอกนิติ” เตือนบาทแข็งเกินไป กระทบโครงสร้างเศรษฐกิจ สั่งคลังเร่งหามาตรการพยุง

