ทุเรียนลาวบุกจีน ชิงส่วนแบ่งตลาดไทย–เวียดนาม
ลาวได้รับไฟเขียวจากทางการจีน เริ่มส่งออกทุเรียนอย่างเป็นทางการ เพิ่มผู้เล่นใหม่ในตลาดทุเรียนจีนมูลค่าสูง ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้นกับผู้ส่งออกรายหลักอย่างไทยและเวียดนาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า South China Morning Post รายงานวันนี้ (18 ธ.ค.68) ว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้รับอนุมัติจากทางการจีนให้เริ่มส่งออกทุเรียนสดไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการ นับเป็นประเทศล่าสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าสู่การแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดทุเรียนขนาดใหญ่ของจีน
รายงานอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานศุลกากรแห่งประเทศจีน (GACC) ระบุว่า ลาวได้รับอนุญาตให้เริ่มส่งออกทุเรียนสดได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ธ.ค.68) โดยกำหนดเงื่อนไขว่าสินค้าต้องผ่านมาตรฐานด้านสุขอนามัยพืชของจีนอย่างเคร่งครัด
South China Morning Post ระบุว่า นักวิเคราะห์มองว่าลาวอาจก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงรายใหม่ในตลาดทุเรียนของจีน ซึ่งมีการแข่งขันรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยลาวมีความได้เปรียบด้านต้นทุน ทั้งแรงงานและระบบโลจิสติกส์ จากการมีพรมแดนติดกับจีน และการเชื่อมต่อด้วยทางรถไฟจีน–ลาว รวมถึงความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลปักกิ่ง
นายลิม ชิน คี ที่ปรึกษาของสถาบันทุเรียน (Durian Academy) ซึ่งให้การฝึกอบรมแก่เกษตรกรท้องถิ่นในมาเลเซีย ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดในการแข่งขันคือระบบโลจิสติกส์ รองลงมาคือแรงงาน พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า รสชาติของทุเรียนจากลาวมีความแตกต่างจากทุเรียนที่ปลูกในไทยและเวียดนามเพียงเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ส่งออกรายหลักในตลาดจีน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและรูปแบบปริมาณน้ำฝนในภูมิภาคมีความใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ ลาวถือเป็นประเทศที่หกที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปยังประเทศจีน ต่อจากไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และกัมพูชา
สำหรับภาพรวมตลาดจีน จีนยังคงเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยในปี 2567 มีการนำเข้าทุเรียนสดรวมกว่า 1.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมากกว่า 99% เป็นการนำเข้าจากประเทศในอาเซียน สะท้อนบทบาทของจีน ในฐานะตลาดหลักของทุเรียนในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ช่วงเดือนมกราคม–กุมภาพันธ์ 2568 ไทยมีมูลค่าส่งออกทุเรียนรวม 128.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,374 ล้านบาท ปริมาณ 24,365 ตัน เพิ่มขึ้น 0.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นทุเรียนสดมูลค่า 85.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทุเรียนแช่เย็นจนแข็งมูลค่า 42.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม การเปิดตลาดรับผู้ส่งออกรายใหม่อย่างลาว สะท้อนการแข่งขันในตลาดทุเรียนจีนที่ทวีความเข้มข้นขึ้น และเป็นปัจจัยที่ผู้ส่งออกในภูมิภาคต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป