เปิด 6 หุ้น ฟอร์มตก! ครึ่งปีแรก รูดเกิน 30%

เปิด 6 หุ้น ฟอร์มตก! ครึ่งปีแรก รูดเกิน 30% นำโดย SOLAR,BTC,MAX,PRINC,BLA และ TASCO


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ SET ช่วง 6 เดือนแรกปี 59 โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.58-31 มิ.ย. 59  โดยการสำรวจครั้งนี้จะขอนำเสนอหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงเกิน 30% เท่านั้น โดยหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 6 ตัว ประกอบด้วย SOLAR,BTC, MAX,PRINC,BLA และ TASCO

 

อันดับ 1 บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR ราคาช่วง 6 เดือนแรก ปรับตัวลดลง 57.78 % จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 9.90 บาท  ลบ 5.72 บาท มาอยู่ที่ 4.18 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59 ราคาหุ้นอ่อนตัวมีปัจจัยกระทบหลายด้าน ทั้งในเรื่องผลการดำเนินที่ไม่สดใส เห็นได้จากบริษัทขาดทุนไตรมาส 1/59 และมีการแก้ไขงบจากขาดทุนหลักล้านเป็นขาดทุนหลักแสน ขณะเดียวกันผู้ถือหุ้นใหญ่เทขายหุ้นออกมา ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงดังกล่าว

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าปีนี้จะพลิกมีกำไรสุทธิ จากที่ขาดทุนสุทธิราว 60 ล้านบาทในปีที่แล้ว หลังตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1,600-2,000 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบันมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่เซ็นสัญญาไปแล้วมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,787 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตจะมีงานใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นรวมถึงมียอดขายแผงโซลาร์เซลล์ ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัท

 

อันดับ 2 บริษัท บางปะกง เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ BTC ราคาช่วง 6 เดือนแรก ปรับตัวลดลง 47.37% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 0.19 บาท  ลบ 0.09 บาท มาอยู่ที่ 0.10 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59 สำหรับหุ้นรายนี้ถือเป็นหุ้นเก็งกำไรที่นักลงทุนชอบเข้ามาไล่ราคา เนื่องจากหุ้นมีราคาถูก แต่อย่าลืมว่าหุ้นรายนี้ไม่พื้นฐานรองรับที่แข็งแกร่ง เห็นได้จากบริษัทมีผลขาดทุนมาโดยตลอด จึงไม่น่าแปลกใจที่หุ้นรายนี้ปรับตัวลงแรง

สำหรับบริษัทดำเนินธุรกิจท่าเทียบเรือ มีลักษณะเป็นท่าเทียบเรือสินค้าบรรจุตู้ (Container Terminal) โดยให้บริการกับเจ้าของเรือ เจ้าของตู้สินค้า และผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้า

 

อันดับ 3 บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ราคาช่วง 6 เดือนแรก ปรับตัวลดลง 36.36% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 0.22 บาท  ลบ 0.08 บาท มาอยู่ที่ 0.14 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59

สำหรับหุ้นรายนี้ถือเป็นหุ้นเก็งกำไรที่นักลงทุนชอบเข้ามาไล่ราคา เนื่องจากหุ้นมีราคาถูก อย่างไรก็ตามในยามที่หุ้นขึ้นแรงหุ้นรายนี้ก็มีโอกาสลงแรงด้วยเช่นกัน เนื่องจากหุ้นรายนี้ไม่พื้นฐานรองรับ เห็นได้จากบริษัทมีผลขาดทุนมาโดยตลอด จึงไม่น่าแปลกใจที่หุ้นรายนี้ปรับตัวลงแรง

อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจปีนี้จะพลิกมีกำไรสุทธิจากยอดขายเหล็กที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับจะมีการบันทึกกลับสำรองลูกหนี้เมื่อปีก่อนหน้า โดยบริษัทคาดว่าในปีนี้จะนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสม 376 ล้านบาทได้ทั้งหมด

พร้อมจับตาผลการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 24,976 ล้านบาท เป็น 45,304 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 20,328 ล้านหุ้น (พาร์ 1บาท) ในวันที่ 14 ก.ค. นี้ จะผ่านหรือไม่ เนื่องจากบริษัทมีแผนนำเงินไปลุยโปรเจ็คใหญ่โรงไฟฟ้า 120 MW-360 MW และสร้างกำไรระยะยาว ซึ่งน่าติดตาม

 

อันดับ 4 บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ราคาช่วง 6 เดือนแรก ปรับตัวลดลง 34.81% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 3.62 บาท  ลบ 1.26 บาท มาอยู่ที่ 2.36 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59 สำหรับหุ้นรายนี้ถือเป็นหุ้นเก็งกำไรที่นักลงทุนชอบเข้ามาไล่ราคาในยามที่หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นสูง จึงไม่น่าแปลกใจที่หุ้นรายนี้จะปรับตัวลงแรงช่วงดังกล่าว

บริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าอาคารที่พักอาศัย บริหารอาคารสำนักงานแบบครบวงจร ให้บริการติดตั้ง และบำรุงรักษา ระบบสารสนเทศ

 

อันดับ 5  บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ  BLA  ราคาช่วง 6 เดือนแรก ปรับตัวลดลง 32.88% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 55.50 บาท  ลบ 18.25 บาท มาอยู่ที่ 37.25 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59 คาดหุ้นปรับตัวแรงมาจากนักลงทุนขายทำไรหลังหุ้นขึ้นไปมาก ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา BLA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ขาดทุนสุทธิ 6.89 พันลบ. เทียบปีก่อนมีกำไร 765.25 ลบ. เนื่องจากบริษัทมีภาระต้องตั้งเงินสำรองพิเศษเพิ่มขึ้นจำนวน 10,380 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าปี 59 มุ่งสู่ผู้นำการวางแผนการเงิน ตั้งเป้าเบี้ยปีแรก 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 60% โดยสินค้าประกันสุขภาพและบำนาญ เป็นสินค้าที่บริษัทจะให้ความสำคัญ ตรงนี้น่าจะทำหุ้นกลับมาน่าสนใจและเป็นโอกาสเข้าลงทุน เพราะดูพื้นฐานที่ผ่านมาหุ้นรายนี้ยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

 

อันดับ 6  บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ราคาช่วง 6 เดือนแรก ปรับตัวลดลง 32.72% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 40.50 บาท  ลบ 13.25 บาท มาอยู่ที่ 27.25 บาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59 ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงเนื่องจากหุ้นปรับตัวขึ้นสูง ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตยางมะตอย ทำให้นักลงทุนทยอยขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง   

บล.เคจีไอ ประเทศไทย ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/59 ขณะที่ PE 9.5 เท่า ถือว่าต่ำกว่ากลุ่มวัสดุฯที่ซื้อขายเฉลี่ย 12 -15 เท่า แนะซื้อเป้าพื้นฐาน 38.85 บาท

 

แม้ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวจะอ่อนตัวลงหนัก หากมองอีกด้านหนึ่งหุ้นกลุ่มนี้ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงได้เช่นกัน เพราะเมื่อดูแผนการดำเนินงานในหุ้นกลุ่มดังกล่าวก็ยังมีลุ้นฟื้นตัวได้ อีกทั้งพื้นฐานรายตัวก็ยังแข็งแกร่ง การหาจังหวะเข้าลงทุนช่วงที่อ่อนตัวก็น่าสร้างผลตอบแทนในอนาคตก็เป็นได้

 

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button