CIG ปีนี้ Turnaround ชู 3 ธุรกิจใหม่โกยรายได้ทะลัก

CIG เปิดแผนธุรกิจปี 60 ชู 3 ธุรกิจใหม่โกยรายได้โต 50% พร้อมทุ่มงบ 500 ลบ. รุกธุรกิจศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้ารองรับแผนพัฒนาระบบรางในประเทศ คาดหนุนรายได้ปี 62 โตเท่าตัว


นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมในปี 60 อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% จากปี 59 ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และคาดผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรจากปีก่อนขาดทุน 1.9 ล้านบาท

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจหลักประมาณ 1,000 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ปรมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย รายได้ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผนังฉนวนกันความร้อน King span ประมาณ 150 ล้านบาท และจากรายได้ธุรกิจจำหน่ายเอธานอลภายใต้บริษัทร่วมทุน คือ บริษัท ฟ้าขวัญทิพย์ จำกัดจำนวน 50 ล้านบาท และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ภายใต้ บริษัท เดอ ละไม ประมาณ 300 ล้านบาท และธุรกิจศูนย์ซ่อมรถไฟฯ ภายใต้บริษัทสยามเรลเวย์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยอยู่ระหว่างการลงทุนยังไม่มีรายได้แต่จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตามในระยะ 3 ปี บริษัทยังวางเป้าหมายการขยายตัวของรายได้ไว้ปีละเฉลี่ย 50% และจะปรับขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 62 หลังจากที่เริ่มรับรู้รายได้ส่วนธุรกิจศูนย์ซ่อมรถไฟฯ ซึ่งขณะอยู่ระหว่างการลงทุนโดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท

 

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจหลักผลิตคอยล์เย็น (Evaporator Coil) คอยล์ร้อน (Condenser Coil) และคอยล์น้ำเย็น (Chilled Water Coil) ซึ่งเป็นส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศเครื่องทำความเย็น และอุปกรณ์ถ่ายเทความร้อน/ความเย็นประเภทอื่นๆ เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศในระยะต่อไปนั้น

บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนการทกำไรให้เพิ่มขึ้นโดยจะยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีความครบวงจรมากขึ้น ตั้งแต่ระบบทำความเย็น ระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศ ระบบประหยัดพลังงาน และระบบผนังและหลังคาฉนวนกันความร้อน เพื่อมุ่งสู่ตลาด Green Building และรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะต้องเข้าสู่การดำเนินการตามการบังคับใช้ กฏหมาย และหลักเกณฑ์ที่จะบังคับใช้มาตรฐานการก่อสร้าง ที่มีแนวโน้มเข็มงวดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

นายอารีย์ กล่าอีกว่า ในส่วนการจัดตั้งบริษัทสยามเรลเวย์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นั้น เพื่อรองรับการทำธุรกิจศูนย์ซ่อมรถไฟครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งแต่การซ่อมบำรุงหัวรถจักร เครื่องยนต์ โบกี้ผู้โดยสารและรถขนส่งสินค้าทุกประเภท โดยมีเป้าหมายเข้าเสนอให้บริการกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ภ่คเอกชน ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธุรกิจปูนซีเมนต์ เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทสไทยมีนโยบายที่จะควบคุมต้นทุนในการบริหารงานเพื่อลดภาระการขาดทุนและเพิ่มปรสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชนและเอกชน

ดังเห็นได้จากการอนุมัติทำการจัดหาหัวรถจักรใหม่จำนวน 50 คัน โดยวิธีการเช่าเป็นระบเวลา 15 ปี ส่วนภาคเอกชนก็มีความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าหรือวัตถุดิบต่างๆทางรางเพิ่มเติมมากขึ้น เพราะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งต่ำกว่าทางรถยนต์ จึงต้องการได้รับการบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และตรงต่อเวลา จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าลงทุนและเตรียมแผนงานเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจนี้ โดยบริษัทคาดรจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้างใน 18 เดือน เปิดบริการปลายปี 61 และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นไป

 

นายเศกุษย์ บัวดวง กรรมการบริหาร บริษัทสยามเรลเวย์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการดำเนินงานของบริษัทขณะนี้ได้จัดหาที่ดินสำหรับดำเนินงานงานเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นพื้นที่มีขนาดเนื้อที่ 30 ไร่ ตั้งอยู่อยู่ที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ติดกับสถานีรถไฟบางน้ำเปรี้ยว ซึ่งจุดนี้มีความเหมะสมที่จะสร้างศูนย์ซ่อมเป็นอย่างยิ่ง

โดยศูนย์ซ่อมรถไฟจะประกอบด้วย โรงซ่อม 2 โรง รวม 13 รางซ่อม สามารถให้บริการซ่อมบำรุงได้พร้อมกันคราวละไม่น้อยกว่า 60 คัน ใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ มีการเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ ความชำนาญ ทั้งจากอดีตวิศวกรและนายช่างจากการรถไฟ และช่างฝีมือทุกแขนงครบวงจร

ขณะเดียวกันที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางรถไฟสายหลัก(ตะวันออก) ที่จะได้รับการพัฒนาเป็นรางคู่(กำลังก่อสร้าง) และอยู่ในพื้นที่ส่งเสริมพิเศษระบียงเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรือ EEC ซึ่งจะเป็นโอกาสได้รับการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI และได้รับมาตรการพิเศษทางภาษี

โดยทางการรถไฟฟ้ากำลังทำประชาพิจารณ์ขอบเขตการดำเนินงาน (TOR) โครงการเช่ารถจักรดีเซลไฟฟ้าเพื่อการขนส่งของการรถไฟ (Diesel Electric Locomotive) จำนวน 50 คัน พร้อมการบำรุงรักษา โดยวิธีการเช่าระยะเวลา 15 ปี นั้น โดยในสาระสำคัญของ TOR กำหนดให้ผู้เข้าเสนอราคาจัดหาโรงซ่อมบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถจักรของตัวเอง เพื่อให้รถจักรนั้นมีความสมบูรณ์พร้อมให้บริการตลอดอายุสัญญาเช่า โดยโครงการนี้คาดจะมีการประกาศจัดจ้างภายในกลางปี 60 และคาดจะมีการส่งมอบรถจักรพร้อมให้บริการต้นปี 63 เป็นต้นไป

Back to top button