KSL หวานเจี๊ยบ! ธุรกิจเทิร์นอะราวด์ รับราคาน้ำตาลพุ่งปรี๊ด

KSL หวานเจี๊ยบ! อวดโฉมธุรกิจเทิร์นอะราวด์ รับราคาน้ำตาลตลาดโลกปรับตัวขึ้นแรง โบรกฯ ฟันเป้าสูงสุด 8.30 บาท เพิ่มอัพไซด์สูงปรี๊ด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL หลังพบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่ราคาอยู่ที่ 4.92 บาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค.60 โดยเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) โดยปิดที่ 5.65 บาท ปรับตัวขึ้น 0.50 บาท หรือ 9.71% ด้านมูลค่าซื้อขาย 239.09 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงนั้น คาดว่ามีสาเหตุมาจากทิศทางราคาน้ำตาลโลกปรับตัวขึ้น รวมทั้งแนวโน้มธุรกิจเอทานอลและพลังงานเริ่มฟื้นตัว โดยราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 8.30 บาท อยู่ 46.90%

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.60 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 453.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 356.56 ล้านบาท ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาน้ำตาลขายโดยเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 ซึ่งมาจากราคาน้ำตาลตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งปริมาณการขายเอทานอลและปริมาณการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทได้รับเงินคืนจากค่ารักษาเสถียรภาพจำนวน 155.46 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ฟ้องคดีผ่านศาลปกครองสูงสุด

 

โดยนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำซื้อ KSL ให้ราคาเป้าหมายที่ 8.30 บาท/หุ้น คาดกำไรปกติปี 60 (สิ้นสุดต.ค.60) เติบโต 167% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถึงแม้ว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกจะอยู่ระดับต่ำกว่า 20 เซนต์/ปอนด์ มาเกือบ 2 สัปดาห์จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า แต่ทิศทางราคาน้ำตาลยังดูดี สดใสกว่าราคายาง ถั่วเหลือง และปาล์ม เพราะน้ำตาลโลกขาดดุลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รวมทั้งมีแนวโน้มจะทยอยดีขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำซื้อ KSL ให้ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท/หุ้น อิง P/BV ที่ 2 เท่า (Average PBV) คาดว่าหลังปิดหีบตัวเลขผลผลิตน้ำตาลของไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกน่าจะออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จนส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีทิศทางแข็งแกร่งขึ้น และส่งผลบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 60/61

ทั้งนี้ถึงแม้ธุรกิจไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบจากการที่อ้อยเข้าหีบล่าช้าไปบ้าง แต่เนื่องจากในปีนี้ไม่มี Unplanned shutdown เหมือนปีก่อน แนวโน้มรายได้จึงน่าจะยังคงเติบโตในช่วงไตรมาสที่ 1 นี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง High Season ของการส่งออกน้ำตาลในไตรมาสที่ 2 และ 3 ถัดไป

นอกจากนี้มองว่าแนวโน้มทุกธุรกิจสดใสจากราคาน้ำตาลที่อยู่แนวโน้มขาขึ้นไปจนถึงปี 60/61 และการ Turn Around ครั้งแรกของธุรกิจน้ำตาลในต่างประเทศทั้งในลาว และกัมพูชา รวมทั้งการเติบโตของธุรกิจเอทานอลจากราคาขายที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน นอกจากนี้ยังมีปริมาณขายไฟในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยายตัว หลังคาดว่าจะไม่มี unplanned shutdown อีก

นอกจากนี้มีโอกาสรับรู้รายการพิเศษจากการชนะคดีเรื่องเงินอุดหนุนกองทุนน้ำตาลและอ้อยในปีนี้อีกกว่า 200 ล้านบาท คาดกำไรปกติปี 59/60 จะเติบโตกว่า 40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากราคาปัจจุบันคิดเป็น P/E ที่เพียง 19 เท่า เมื่อเทียบกับ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 23 เท่า และ P/E เฉลี่ยย้อนหลังช่วงปี 51-54 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำตาลโลกขาดดุลที่ 28 เท่า

 

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำซื้อ KSL ให้ราคาเป้าหมาย 7.30 บาท/หุ้น คาดว่าบริษัทจะมีกำไรปกติเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 159% ในปี 60 ด้วยปัจจัยบวกจากการที่ราคาขายเฉลี่ยน้ำตาลพุ่งสูงขึ้น และธุรกิจเอทานอลและพลังงานฟื้นตัว ผนวกกับธุรกิจในต่างประเทศผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทั้งนี้ KSL รับรู้ขาดทุนสุทธิจากกิจการในประเทศลาวและกัมพูชา รวม 233 ล้านบาทในปี 58 และ 186 ล้านบาทในปี 59 เนื่องจากราคาน้ำตาลปรับตัวลงและประสิทธิภาพการผลิตอยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากิจการในสองประเทศนี้จะมีกำไรจากการดำเนินงานในปี 60 จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นและการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัท KSL ขณะที่ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว KSL ได้อนุมัติแผนจดทะเบียนบริษัทย่อยคือบริษัท ขอนแก่นแอลกอฮอล์ จำกัด (KKA) ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดจะดำเนินการเสร็จในช่วงไตรมาส 3/60 และน่าจะกลายเป็นปัจจัยบวกอีกประการต่อราคาหุ้น จึงมองว่าทั้งสองโครงการอาจกลายเป็น upside ต่อประมาณการ

Back to top button