SHR เชื่อรายได้ครึ่งหลังฟื้น-เปิดแผนขายรร.อังกฤษเพิ่ม 4-5 แห่ง

SHR เชื่อรายได้ครึ่งหลังฟื้น รับวัคซีนโควิด-19 ในยุโรป เปิดแผนขายรร.อังกฤษเพิ่ม 4-5 แห่ง เตรียมใช้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาปรับปรุงโรงแรม


นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะขายโรงแรมในสหราชอาณาจักรอีกประมาณ 4-5 แห่ง หลังจากในเดือน เม.ย.64 บรรลุข้อตกลงการขายโรงแรม Mercure Newbury Elcot Park ซึ่งเป็นโรงแรมขนาด 73 ห้อง คิดเป็นมูลค่ารวม 4.25 ล้านปอนด์ (หรือเทียบเท่า 182 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตการลงทุนของบริษัทฯ สำหรับเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ดังกล่าวจะนำไปลงทุนพัฒนาปรับปรุงโรงแรมชั้นนำของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และต่อยอดประสิทธิภาพในการทำกำไรของพอร์ตโฟลิโอในสหราชอาณาจักร โดยหวังดัน EBITDA ให้ขึ้นไปถึงระดับสูงสุดที่เคยทำได้ที่ 18 ล้านปอนด์ หรือ 720 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการในปีนี้ของโรงแรมในสหราชอาณาจักร บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะมีรายได้และกำไรจากการดำเนินการเติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง จากความคืบหน้าของแผนการฉีดวัคซีนของคนในสหราชอาณาจักรและยุโรป ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการผ่อนปรนข้อจำกัดในการเดินทางและการใช้ชีวิตของรัฐบาลอังกฤษที่ประกาศออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา คาดน่าจะส่งผลดีต่อโรงแรมในพอร์ตนี้ต้อนรับฤดูกาลการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3-4 นี้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ให้แต่ละโรงแรมปรับกลยุทธ์หลายด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ

“เรายังเชื่อมั่นว่าในปี 64 เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ผ่อนคลาย และมีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมตามลำดับ SHR มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเดินหน้าธุรกิจ ควบคู่การใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานบริการด้านสุขอนามัยที่เข้มข้น”  นายเดิร์ก กล่าว

ขณะที่โรงแรมในประเทศไทย SHR ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการปรับแผนการตลาดครั้งใหญ่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งที่ผ่านมามิใช่ฐานลูกค้าหลัก เสริมทัพด้วยการรีแบรนด์ Outrigger Laguna Phuket Beach Resort และโรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท เป็นโรงแรมทราย “SAii” สองแห่งแรกในประเทศไทย ได้แก่ โรงแรมทราย ลากูน่าภูเก็ต และโรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ โดยเน้นช่องทางเว็บไซต์และแพลตฟอร์มการจองห้องพักใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในและการจัดการรายได้

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการเติบโตต่อเนื่องสู่ 544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากไตรมาส 4/63 จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของโรงแรมในโครงการ CROSSROADS ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ และการรับรู้รายได้ของโรงแรมในสหราชอาณาจักรบางส่วน สะท้อนกลยุทธ์จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยง

Back to top button