4 หุ้นสุดแกร่ง รับเต็มอานิสงส์ 2 เด้ง!ราคาฉายแววรุ่ง อัพไซด์สูงเกิน 15%

4 หุ้นอสังหาฯ เตรียมรับผลดี 2 เด้ง จากโครงการบ้านประชารัฐ-กำไร Q1/59 แจ่ม! คาดหนุนราคาหุ้นทะยาน ด้านอัพไซด์สูงเกิน 15%


เปิดโผ 4 หุ้นอสังหาฯ ส่อแววรุ่ง! เตรียมรับผลดี 2 เด้ง โครงการบ้านประชารัฐ-กำไร Q1/59 แจ่ม! คาดหนุนราคาหุ้นทะยาน ด้านอัพไซด์สูงเกิน 15%

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ให้น้ำหนักกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยมากกว่าตลาด หลังครม.มีมติอนุมัติวงเงิน 7 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการบ้านประชารัฐ (3 หมื่นล้านบาทสำหรับสินเชื่อโครงการ และ 4 หมื่นล้านบาทสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย)

โดย โครงการดังกล่าวมีอายุ 2 ปีนับตั้งแต่วันนี้ ซึ่งธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนวงเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขผ่อนปรบสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือ สอง และรวมถึงวงเงินกู้ตกแต่งปรับปรุงบ้านด้วย

ทั้งนี้ราคาบ้านใหม่ และวงเงินกู้ต้องไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลของเราที่ได้รับจากผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พบว่า LPN จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการดังกล่าว เนื่องจากสินค้าพร้อมขายกว่า 92% ที่ยกมาจากปีก่อนเข้าเงื่อนไข ขณะที่ ORI และ PS ซึ่งมีโครงการเข้าเกณฑ์ในระดับ 32% และ 15% ตามลำดับก็ถือเป็นผู้ได้ประโยชน์ที่ชัดเจนเช่นกัน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการบ้านประชารัฐตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ที่คาดออกมาสดใส เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนและจากปีก่อน หลังยอดขายปรับตัวขึ้นสูง โดยมี บจ.ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวทั้งหมด 4 บจ. คือ PS, ORI, LPN และ SENA

 

PS2016

อันดับที่ 1 บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ระบุว่า แนวโน้มยอดขาย (Presale) ช่วงไตรมาส 1/59 น่าจะมากกว่า 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายประมาณ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งนี้ ช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ. 59) บริษัทมียอดขายแล้ว 5,363 ล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 1/59 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 9,000 ล้านบาท                    

สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการเพิ่มอีก จำนวน 50-55 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 45,000 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการเปิดโครงการใหม่ดังกล่าวจะผลักดันให้ยอดขายทั้งปีของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 51,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะช่วยผลักดันรายได้รวมของบริษัทให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 52,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยแบ็กล็อกดังกล่าวจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 2559-2561

ด้านนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่ากำไร PS ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสและดีกว่าที่คาดไว้ ขณะที่แนวโน้มยังคงเป็นบวก โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 อีก 11% หลังจากปรับเพิ่มประมาณการรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีก 3.4% และปรับลดประมาณการสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายลงเหลือ 15% (จากเดิม 16.3%) แนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 33.00 บาท (จากเดิม 30.00 บาท) และเลือกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม Upside 22%

 

ORI2016

อันดับที่ 2 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ระบุว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 จะมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากช่วง 2 เดือนแรกมียอดขายแล้วกว่า 800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้านบาท เนื่องจากการอัดแคมเปญต่างๆของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา สอดรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงก่อนนี้ด้วย ทำให้มั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเข้าเป้าหมายที่ 4,000 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากยอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ ณ สิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,846 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทเตรียมนำโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นยูนิตรวมกว่า 1,000 ยูนิต เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ  เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่มีความต้องการที่อยู่อาศัยหลังแรก

ด้านนักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORI ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 7,500 พันล้านบาท ทั้งโครงการเดิม และโครงการที่จะเปิดใหม่อีกราว 10,000 ล้านบาท โดยคาดหมายว่าสิ้นปี 2559 บริษัทน่าจะมี Backlog รอโอนข้ามปีราว 10,000 ล้านบาท ทำสถิติยอดขายรอรับรู้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง สวนทางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังฟื้นตัว ขณะที่คู่แข่งกลับตั้งเป้าการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งปี 2559 ที่ 3,600 ล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายที่ฝ่ายบริหารประเมินไว้ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากไม่มั่นใจในยอดการโอนคอนโดดบางโครงการ โดยเฉพาะในส่วนที่สร้างเสร็จในไตรมาสสุดท้าย ส่วนกำไรปี 2559 อยู่ที่ 708 ล้านบาท เติบโตขึ้น 83% มากที่สุดในอุตสาหกรรม แนะนำ “เก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมาย 14.16 บาท/หุ้น ให้ปันผล 3.6% มี Upside 15%

 

LPN2016

อันดับที่ 3 บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ระบุว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ในไตรมาส 1/59 ไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท จากเป้ายอดขายทั้งปีที่ 17,600 ล้านบาท โดยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาบริษัททำยอดพรีเซลได้แล้วกว่า 500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.58 ซึ่งในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการ คือ โครงการลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก มูลค่าโครงการ 1,300 พันล้านบาท และในไตรมาส 1/59 ยังเหลือเปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการต่อขายจากโครงการเดิม คือ โครงการลุมพินี ทาวน์ชิพ รังสิต คลอง 1 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

ด้านรายได้ ครึ่งปีแรกบริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 12,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 17,600 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีการโอนคอนโดเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.59) ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ทำให้เกิดการเร่งโอนโครงการมากขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่าราคาปัจจุบันของ LPN ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ทั้งนี้คาดว่ากำไรงวดไตรมาส 1/59 ของ LPN จะออกมาดีที่สุดของปีนี้ (2559) เนื่องจากมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนจำนวนมาก และยังอยู่ในช่วงของการใช้มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ

โดยกำไรสุทธิปี 2559 คาดว่าจะออกมา 2,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 2,413 ล้านบาท ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” Fair value ที่ 19.20 บาท Upside 37%

 

SENA2016-fix

อันดับที่ 4 บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ระบุว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจฟื้นตัว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐ โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ที่จะสิ้นสุดในเดือน เม.ย.59 รวมไปถึงการหักลดหย่อนภาษีจากการซื้อบ้านหลังแรกที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2559 ทำให้ลูกค้าที่คิดจะกู้ซื้อบ้านตัดสินใจได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษถึงสิ้นเดือน มี.ค.59 โดยโครงการอาคารสูงพบกับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท ฟรีรถซูซุกิ สวิฟท์ เฟอร์นิเจอร์ครบชุด พร้อมของแถมอีกมากมายหลายรายการ โดยบริษัทมั่นใจว่าการจัดโปรโมชั่นพิเศษในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 1/59 ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20%

ด้านนักวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่าปีนี้กำไรพุ่งทำสถิติใหม่ จากโครงการใหญ่ที่สร้างเสร็จเริ่มโอน และบริษัทย่อยพลิกเป็นกำไร โดยปัจจุบันซื้อขายในราคาที่ถูกมาก ด้วย P/E ที่ต่ำกว่า 6 เท่า, P/B เพียง 0.7เท่า และจ่าย D/P เกือบ 7% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท upside 49%

 

*อนึ่งโครงการบ้านประชารัฐเป็นการสร้างโอกาสผู้ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้มีรายได้ไม่แน่นอน ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิในที่อยู่อาศัยมาก่อนให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง

สำหรับโครงการบ้านประชารัฐที่ทางครม. เห็นชอบนั้นเป็นโครงการที่ช่วยสร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ซึ่งไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมอบหมายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย (KTB) สนับสนุนสินเชื่อ “โครงการบ้านประชารัฐ” วงเงินรวมทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท

แบ่งเป็น สินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) สำหรับประชาชนทั่วไปวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท

Back to top button