คุณพระ! 6 หุ้นฉายแววโดดเด่นสถิติชี้ชัดเดือนพ.ค. Outperform

เปิดชื่อ 6 หุ้นสุดสตรอง! สถิติชี้ราคาหุ้นมีแนวโน้ม Outperform เดือนพ.ค. ด้านโบรกฯ เชียร์ซื้อ ชูพื้นฐานสุดแกร่ง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ที่มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยอาศัยข้อมูลทางสถิติ พบว่ากลุ่มที่ราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นเหนือตลาดในช่วงเดือนดังกล่าวได้แก่ โรงพยาบาล, โรงแรม, ค้าปลีก และกองทุน

นักวิเคราะห์ บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ว่าจากสถิติในอดีตหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม ค้าปลีก และ Asset Fund มีโอกาส Outperform ตลาดในเดือนพฤษภาคมมากที่สุด ขณะที่ราคาหุ้นหลายๆ ตัวในกลุ่มดังกล่าวปรับลดลงใกล้แนวรับ แนะนำ “ซื้อ” CENTEL (รับ 38/36 บาท), MINT (รับ 36 บาท), BH (รับ 98 บาท), CPALL (รับ 44.75 บาท), CPNRF (รับ 19.5-19.7 บาท) และ DIF (รับ 14.6-14.7 บาท)

 

อับดับที่ 1 บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำซื้อ CENTEL ราคาพื้นฐาน 46 บาท โดยมีข้อดีคือ รายได้เฉลี่ยต่อห้องเพิ่ม ซึ่งตามประมาณการปี 59 เป็น 6.3% ทั้งนี้ CENTEL มีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์ในธุรกิจอาหาร QSR ด้วยการทำ M&A ที่มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท เพื่อเป็น upside ต่อไปของธุรกิจอาหาร รวมทั้งอาจมีผลต่อประมาณการให้ปรับดีขึ้นได้

 

อับดับที่ 2 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการ์ณกำไรปกติไตรมาส 1/59 ของ MINT เติบโต 13% จากปีก่อน มาจากการซื้อกิจการโรงแรมใหม่, เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอาหาร ทำให้ควบรวมกิจการเข้ามาเพิ่ม รวมถึงมีการโอนฯโครงการที่พักอาศัยมากขึ้น คาดที่เหลือของปียังเติบโตจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง หนุนกำไรปี 2559 จะเพิ่มขึ้น 23% ยังแนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐานปี 59 ที่ 44 บาท โดย MINT ถือเป็นบริษัทที่มีฐานธุรกิจหลากหลายกระจายตัวมากสุด ทำให้เผชิญกับความเสี่ยงน้อยสุดในกลุ่มฯ

 

อับดับที่ 3 บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BH บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์คาดการ์ณกำไร BH เติบโต 6% จากปีก่อนที่ 1 พันล้านบาท หลักๆ มาจากราคาที่เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยไม่เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ ทั้งนี้ กำไรในไตรมาส 1/59 คิดเป็น 24% ของทั้งปีที่คาดการณ์ไว้ ยังคงกำไรปี 59 จนกว่าจะประชุมกับผู้บริหาร มองบริษัทความเสี่ยงขาลงต่อกำไรปี 59 ประมาณ5-10% จากจำนวนผู้ป่วยที่อาจต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 270 บาท

 

อับดับที่ 4 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า CPALL จะรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/59 ที่ระดับ 3,793 ล้านบาท (ลดลง 2.2% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 11.3% จากปีก่อน) เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากฐานกำไรปีก่อน ประเมินราคาเหมาะสมที่ 66 บาท โดยมองว่าบริษัทจะมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องตามยอดขายทั้งจาก 7-Eleven และ MAKRO ให้คำแนะนำ “ซื้อ”

 

ขณะที่อีก 2 ตัวคือกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNRF และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้นและมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่านไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button