สธ. เตรียมฉีดวัคซีนโควิดล็อตแรก ชี้หากมีผลข้างเคียง รัฐพร้อมจ่ายค่าเสียหาย

สธ. เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนโควิดล็อตแรก ชี้หากมีผลข้างเคียง รัฐพร้อมจ่ายค่าเสียหาย


นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนตามแผนงานที่วางไว้ตามหลักสากลที่จะฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าที่มีความเสี่ยง ซึ่งไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น หลังจากได้รับมอบวัคซีนแล้วจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้อาจมีความยืดหยุ่น เนื่องจากปัญหาการห้ามส่งออกวัคซีนไปนอกอียู โดยผู้รับผิดชอบอยู่ระหว่างการเจรจา

“ถ้าผ่านขึ้นทะเบียนมาได้ก็มีประโยชน์ เพราะกว่าจะผ่านคณะกรรมการตรวจสอบมาได้ไม่ง่าย ถึงจะเป็นการขึ้นทะเบียนฉุกเฉินก็ตาม” นพ.ทวี กล่าว

สำหรับความเสียหายจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนนั้นขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล การฉีดวัคซีนจะเป็นไปตามความสมัครใจ แต่หากเกิดความเสียหายจากการฉีดวัคซีนจริง รัฐก็จะเป็นผู้จ่ายค่าเสียหายดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวเรื่องประสิทธิผลของวัคซีนที่ลดลงเนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์ในบางประเทศที่มีการระบาดรุนแรง เช่น อังกฤษ บราซิล และแอฟริกาใต้ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตวัคซีนกำลังคิดค้นว่าจะพัฒนาวัคซีนไปในแนวทางใด เช่น วัคซีนเข็มที่สองอาจผลิตจากพันธุกรรมของเชื้อตัวใหม่

สำหรับการฉีดวัคซีนในประเทศไทยจะไม่ฉีดให้กับหญิงตั้งครรภ์ ส่วนผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 หากรักษาหายเกิน 3 เดือนแล้วควรรับวัคซีน เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นอาจอยู่ในระดับที่ต่ำ

ปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วประมาณ 100 ล้านโดส โดยประเทศอิสราเอลมีการฉีดไปแล้ว 55% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งพบว่ามีอัตราการติดเชื้อลดลง 30% ขณะที่ข้อดีข้อเสียของการฉีดวัคซีนจะเป็นอย่างไรยังไม่มีใครสามารถตอบได้ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

ส่วนผลข้างเคียงนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้แน่นอน เนื่องจากเป็นการนำชีววัตถุเข้าสู่ร่างกาย โดยอาการข้างเคียงส่วนใหญ่เกิดขึ้นได้ 70% คือเป็นไข้ ขณะที่การฉีดน้ำเกลือเกิดผลข้างเคียงเป็นไข้ได้ 50% ส่วนกรณีเกิดอาการข้างเคียงรุนแรงจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มาจากการฉีดวัคซีนพบ 0.7% ใกล้เคียงกับที่พบจากการฉีดน้ำเกลือ 0.8%

ส่วนกรณีที่เห็นในข่าวว่าเกิดอาการช็อคหมดสตินั้น ในกรณีวัคซีนของไฟเซอร์เคยเกิดขึ้น 11 รายใน 1 ล้านโดส ส่วนวัคซีนของโมเดอร์นาเคยเกิดขึ้น 3.7 รายใน 1 ล้านโดส ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่เคยเกิดขึ้น 1 รายใน 1 ล้านโดส โดยอาการดังกล่าว 95% มักเกิดขึ้นกับผู้หญิง และ 95% เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนแล้ว 15 นาที ดังนั้นหลังรับวัคซีนแล้วจึงต้องให้พักรอก่อน

สำหรับการใช้งานวัคซีน 4-5 ล้านโดสของบริษัท ซิโนแวก ในจีน อินโดนีเซีย และ เมียนมา ยังไม่มีการรายงานผลออกมา ซึ่งกำลังติดตามหาข้อมูลเพื่อนำมาใช้พิจารณากรณีขอขึ้นทะเบียน

Back to top button