
จับตาครม. เคาะ “กม.หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์” – โอนทรัพย์ FIDF ชำระหนี้
ครม.ประชุม 10 มิ.ย. เคาะร่างกฎหมายหลักทรัพย์ฉบับใหม่ รองรับการออก “หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์” พร้อมพิจารณาโอนสินทรัพย์จากกองทุน FIDF เพื่อชำระหนี้การคลัง และการเตรียมพร้อมก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) วันที่ 14 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 มิ.ย. 2568) การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
วาระเศรษฐกิจเด่น กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับใหม่) เพื่อรองรับ “หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์” โดยเพิ่มหมวดใหม่ 11 มาตรา และบทลงโทษ รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการเงิน
รวมถึงขออนุมัติโอนสินทรัพย์จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) รุ่นที่ 1 และ 3 เพื่อบริหารจัดการภาระหนี้ของรัฐ
ด้านโลจิสติกส์และแรงงานภาครัฐ กระทรวงคมนาคม เสนอแผนการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และขอเพิ่มสวัสดิการพิเศษให้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
กระทรวงมหาดไทย เสนอขอใช้งบกลางเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชนช่วงไตรมาส 4/2567 (เดือนตุลาคม–ธันวาคม)
นอกจากนี้มีประเด็นความมั่นคงและการทูต ที่ประชุมจะหารือแนวทางเจรจาข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย.นี้
วาระจากกระทรวงอื่น ๆ ที่น่าจับตา ได้แก่
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำรี จ.น่าน และขอใช้งบกลางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
กระทรวงกลาโหม เสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวง
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
กระทรวงการต่างประเทศ ขอทบทวนมติ ครม. เกี่ยวกับการพิจารณาเอกสารภายใต้กรอบอาเซียน
กระทรวงสาธารณสุข เสนอร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทย–ซาอุดีอาระเบีย
วาระเพื่อทราบ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานการจัดตั้งสถานีตำรวจทางหลวงแห่งใหม่, กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอแผนป้องกันการทุจริตในภาคอุตสาหกรรมแร่ และคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากร