
DSI สอบ 2 คนไทย ส่อเอี่ยวเครือข่าย “ปริ้นซ์กรุ๊ป”
กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสอบปากคำ 2 ผู้ถือหุ้นชาวไทย บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หลังมีประเด็นสงสัยอาจเกี่ยวโยงกับเครือข่าย “ปริ้นซ์กรุ๊ป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงวันนี้ (24 ต.ค.68) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่เพื่อพบผู้ถือหุ้นของ บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Prince International) เพื่อบันทึกการสอบปากคำและรับมอบพยานเอกสาร ตามที่ผู้ถือหุ้นประสงค์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามสำนวนสืบสวนที่ 134/2568
คณะพนักงานสืบสวนของ DSI ได้สอบปากคำผู้ถือหุ้นชาวไทย 2 ราย เพื่อชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของการดำเนินธุรกิจ ผลประกอบการ และตรวจสอบความเชื่อมโยงทางธุรกิจที่อาจเกี่ยวข้องกับ กลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) หรือบุคคลในต่างประเทศ โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น
สำหรับประเด็นที่สื่อมวลชนต่างประเทศรายงานเกี่ยวกับ นายเฉิน จื้อ หรือ “วินเซนต์” ชายเชื้อสายจีน สัญชาติสหราชอาณาจักรและกัมพูชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปริ้นซ์ กรุ๊ป (Prince Group) ซึ่งถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกงและฟอกเงินโดยทางการสหรัฐฯ นั้น หน่วยงานไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ มีความเชื่อมโยงทางธุรกิจหรือไม่ โดยขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปทางกฎหมายใด ๆ
คณะพนักงานสืบสวนของ DSI ย้ำว่า การสอบปากคำดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ผู้ถูกสอบมีสิทธิ์ให้ข้อมูลหรือมอบเอกสารประกอบคำให้การตามความสมัครใจ ซึ่งทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ในสำนวนการสืบสวนเพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า คณะพนักงานสืบสวน กองกิจการอำนวยความยุติธรรม จะสอบปากคำผู้ถือหุ้นชาวไทย 2 ราย ได้แก่ นายปริตวาทย์ กุลศรีสุวรรณ และนายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ โดยขั้นตอนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวนที่อยู่ระหว่างดำเนินการของดีเอสไอ
ภายหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่นานกว่า 4 ชั่วโมง นายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นชาวไทยของบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า การเข้าพบเจ้าหน้าที่ในวันนี้ บริษัทเชิญดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และชี้แจงข้อเท็จจริงว่า บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท Prince Holding Group
โดยบริษัทได้มอบเอกสารหลักฐานให้กับดีเอสไอครบถ้วน ทั้งรายชื่อผู้ถือหุ้น บัญชีรายรับ-รายจ่าย งบประมาณ และเส้นทางการเงินย้อนหลัง ซึ่งยืนยันได้ว่ารายได้ของบริษัทไม่ได้มาจากต่างประเทศ โดยลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทยที่เช่าอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ
ส่วนประเด็นการสอบปากคำ นายวุฒิชัย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ซักถามถึงความเชื่อมโยงกับบริษัท Prince Holding Group หรือการเป็นนอมินีให้เครือข่ายสแกมเมอร์ ในการฟอกเงิน ซึ่งได้ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเป็นบริษัทในเครือใด
แต่ยอมรับว่าในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ เคยเจรจากับบริษัท Prince Holding Group เพื่อส่งออกสินค้าไทยไปจำหน่ายในกัมพูชา เนื่องจากเห็นว่า เป็นบริษัทขนาดใหญ่และมีความน่าเชื่อถือ สามารถเปิดช่องทางในการทำธุรกิจ แต่เนื่องจากเจรจาเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงเปลี่ยนจากการขายสินค้า เป็นการทำธุรกิจนายหน้าเจรจากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในไทย เพื่อให้ไปลงทุนร่วมกับ Prince Holding Group ในกัมพูชา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ร่วมมือกัน เพราะ Prince Holding Group ได้นำแนวคิดดังกล่าวไปสร้างธุรกิจของตนเอง
โดยที่บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเงินหรือการลงทุนแต่อย่างใด ก่อนจะเปลี่ยนมาประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567
สำหรับกรณีที่ชื่อ บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ของไทย ยังปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของบริษัท ปริ้นซ์ฯ ไต้หวัน นั้น เนื่องจาก นายหวัง ยู่ ถัง กรรมการบริษัท ถูกอายัดบัญชีไว้ตรวจสอบ ทำให้ไม่มีอำนาจในการบริหารบริษัท ปริ้นซ์ฯ ไต้หวัน และไม่สามารถถอดถอนชื่อบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ออกจากเว็บได้จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ นายวุฒิชัย ยังเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีอีกหนึ่งบริษัทที่ใช้ชื่อ “Prince” จดทะเบียนในประเทศไทย ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นบริษัทที่กลุ่ม Prince Holding Group จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยได้มอบข้อมูลดังกล่าวให้กับดีเอสไอแล้วเพื่อประกอบการพิจารณา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“กมธ.ฟอกเงิน” แกะเส้นเงิน “ปริ้นซ์กรุ๊ป” กลิ่นโชยส่อโยงเครือข่ายในไทย
สส.เกาหลีใต้ แฉพิกัด “ปรินซ์กรุ๊ป” เคยตั้งออฟฟิศใจกลางโซล แต่เบอร์โทรเป็นรหัสกัมพูชา
“รัฐบาลมะกัน” ริบคริปโท 1.5 หมื่นล้านดอลล์ แฉ “ปรินซ์กรุ๊ป” ตั้งค่ายเขมรหลอกเหยื่อทั่วโลก

