สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 พ.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 พ.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอีกกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงพากันเข้าซื้อหุ้นท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกในตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,382.13 จุด เพิ่มขึ้น 360.68 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,173.85 จุด เพิ่มขึ้น 61.35 จุด หรือ +1.49% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,429.98 จุด เพิ่มขึ้น 304.99 จุด หรือ +2.32%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า จะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินเร็วๆนี้ ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 442.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ +1.19%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,385.14 จุด เพิ่มขึ้น 96.81 จุด หรือ +1.54%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,416.64 จุด เพิ่มขึ้น 216.96 จุด หรือ +1.43% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,043.61 จุด เพิ่มขึ้น 80.28 จุด หรือ +1.15%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน แต่ตลาดปรับตัวลงมากที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนก.พ.ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,043.61 จุด เพิ่มขึ้น 80.28 จุด หรือ +1.15% แต่ร่วงลง 1.2% ในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 68.71 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 0.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนสัญญาทองคำด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14.1 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,838.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำเพิ่มขึ้น 0.4%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 30.6 เซนต์ หรือ 1.13% ปิดที่ 27.365 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 16.3 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 1,222.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 30.00 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 2,894.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด อาทิ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.48% แตะที่ 90.3191 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.35 เยน จากระดับ 109.45 เยน, อ่อนค่าเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9021 ฟรังก์ จากระดับ 0.9062 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2112 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2166 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2143 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2075 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.4100 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4042 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7785 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7725 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button