
หุ้นยุโรปปิดลบ! กังวลหนี้สหรัฐ-PMI ยูโรโซนอ่อนแรง ฉุด STOXX รูดแรงในรอบเดือน
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรง รับแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง หลังร่างกฎหมายลดภาษีของ ทรัมป์ เพิ่มความเสี่ยงหนี้สาธารณะ ขณะ PMI ยูโรโซนหดตัว ดันความกังวลเศรษฐกิจซบต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.68) โดยดัชนี STOXX 600 ลดลง 3.55 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 550.27 จุด ร่วงแรงสุดในรอบกว่า 1 เดือน นับตั้งแต่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 554.02 จุดเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา
แรงเทขายถูกกระตุ้นจากความวิตกต่อสถานะการคลังของสหรัฐ หลังร่างกฎหมายลดภาษีวงเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ที่ผลักดันโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เมื่อค่ำวานนี้ตามเวลาในประเทศไทย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ด้านยุโรป บอนด์ยีลด์เยอรมนีระยะยาวปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่ดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนพฤษภาคมของยูโรโซนลดลงมาอยู่ที่ 49.5 จาก 50.4 ในเดือนเม.ย. โดยเฉพาะภาคบริการที่ชะลอตัวชัดเจน สะท้อนผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่เริ่มกดดันอุปสงค์ภายใน
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ลดลง 123.23 จุด หรือ -0.51% ปิดที่ 23,999.17 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส -0.58% ปิดที่ 7,864.44 จุด ลดลง 46.05 จุด ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน -0.54% ปิดที่ 8,739.26 จุด ลดลง 47.20 จุด
กลุ่มหุ้นสินค้าส่วนบุคคล ยานยนต์ และของใช้ในครัวเรือน ร่วงแรงสุดใน STOXX 600 ขณะ Johnson Matthey พุ่งกว่า 30% หลังประกาศขายธุรกิจให้ Honeywell มูลค่า 1.8 พันล้านปอนด์
Embracer เจ้าของเกม “ทูม เรเดอร์” ร่วง 17% หลังคาดการณ์กำไรปีงบ 68/69 ทรงตัว และเลื่อนเปิดตัวเกม AAA อย่างน้อย 1 รายการ