
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 69 จุด จับตาความเสี่ยง “ชัตดาวน์” รัฐบาลกลางสหรัฐ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกวันแรกของสัปดาห์ สามดัชนีหลักเขียวถ้วนหน้า นำโดยหุ้นเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ นักลงทุนจับตาเสี่ยงชัตดาวน์รัฐบาลกลาง ขณะที่ราคาทองคำพุ่งทะลุ 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (29 ก.ย.68) เปิดสัปดาห์การซื้อขายด้วยทิศทางเชิงบวก โดยดัชนีหลักทั้งสามปิดบวกถ้วนหน้า ท่ามกลางความกังวลว่า รัฐบาลกลางอาจเผชิญภาวะปิดทำการ (government shutdown) ภายในกลางสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ช่วยหนุนตลาดให้ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,316.07 จุด เพิ่มขึ้น 68.78 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,661.21 จุด เพิ่มขึ้น 17.51 จุด หรือ +0.26% และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,591.15 จุด เพิ่มขึ้น 107.09 จุด หรือ +0.48%
นักลงทุนยังคงจับตาการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้นำสภาคองเกรส ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเดียวกัน โดยถือเป็นความหวังครั้งสุดท้ายในการหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของงบประมาณภาครัฐ ความไม่แน่นอนดังกล่าวกดดันบรรยากาศลงทุนในบางกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นพลังงานที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันโลก ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย
ด้านตลาดทองคำ วันที่ 29 กันยายน 2568 ราคาปรับขึ้นแรงจนทะลุระดับ 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก โดยราคาทองคำสปอตขยับขึ้นแตะ 3,829.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 3,833.37 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นราว 1.2% การอ่อนค่าของดอลลาร์ ประกอบกับความกังวลเรื่องการปิดทำการรัฐบาลและความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตใกล้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่