ราคาน้ำมันร่วง-ศก.จีนชะลอตัวฉุด SETเลือกเก็บ 14 หุ้นร้อน เทรนด์ดีกว่าตลาด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเสี่ยงปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจจีน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี การลงทุนเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มแกร่งกว่าตลาดรวม เช่นกลุ่มท่องเที่ยว และโรงพยาบาล


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.31 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังเงินหยวนอ่อนค่าลงอีกวานนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนประกาศระงับซื้อขายหลังดัชนีหุ้นร่วงกว่า 7%

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเสี่ยงปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจจีน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี การลงทุนเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มแกร่งกว่าตลาดรวม เช่นกลุ่มท่องเที่ยว และโรงพยาบาล หุ้นเด่นเลือก ADVANC-CHG-AAV-BA-SVI-SAWAD-GUNKUL-AOT-EPG-CK-STEC-CI-STPI และ KC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ธ.ค.) ว่า การฟื้นตัวของ SET วานนี้ ยังเป็นเพียง Technical Rebound เท่านั้น โดยจะเกิดสัญญาณกลับตัวก็ต่อเมื่อสามารถปิดตลาดได้เหนือ 1,275 จุด ขณะที่ 1) ความกังวลต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจจีน 2) การปรับของราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง 5-6% เมื่อคืนนี้ หลังสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด 3) การทดลองนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ ยังเป็นปัจจัยกดดัน Sentiment ตลาดหุ้นโลก และ SET ต่อไปวันนี้

แนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด

1) ท่องเที่ยว: AOT ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 420 บาท มองแข็งแกร่งทั้งจำนวนผู้โดยสารที่ขยายตัว 8% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า และรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น

2) โรงพยาบาล: CHG ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 3.20 บาท การขยายฐานรายได้จากรักษาโรคเฉพาะทาง หนุนการเติบโตระยะยาว

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ธ.ค.) ว่า SET เปิดตลาดขึ้นมาในเดือน ม.ค. ปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่มีแรงกดมากที่สุดในรอบหลายๆปี ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจจีน ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง ปัญหาในตะวันออกกลาง และปัญหาในเกาหลีเหนือ ส่วนหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงมากกว่า 250 จุดและหลุดระดับ 17,000 จุด จากแรงกดดันของราคาน้ำมันและปัญหาการทดลองระเบิดไฮโดรเจนในเกาหลีเหนือ

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศ จะยังส่งผลต่อดัชนี แต่คาดว่าจะอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจาก ตอนนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ลงมาในระดับที่มีความเสี่ยงต่ำในรอบหลายๆ ปี โดยเฉพาะค่า P/BV โดยเรามองว่าค่า P/BV ที่ระดับ -1SD น่าจะยังรองรับผลกระทบรอบล่าสุดได้ ซึ่งดัชนี SET จะอยู่ที่ 1,250+/- จุด นอกจากนั้นในรอบนี้ดัชนี SET ลงจากจุดสูงสุดมาถึงต่ำสุดประมาณ 23% เทียบปี 2011 (น้ำท่วมใหญ่) ที่ลดจากจุดสูงสุดถึงต่ำสุดที่ประมาณ 25%

ขณะที่สัดส่วนระหว่างหุ้น MSCI Thailand เทียบ MSCI Asia ex Japan ปี 2011 กับปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน วันนี้คาดดัชนี SET จะยังผันผวนตามดัชนีในภูมิภาค คือยังแกว่งตัวลง แต่คงไม่ลึก จากแรงกดดันของการดิ่งลงของดัชนีในภูมิภาคและแรงขายหุ้นพลังงาน โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1,250-1,245 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,265-1,270 จุด

Themes play: แนะนำ ซื้อ ADVANC โดยมีราคาเป้าหมาย 195 บาท

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ธ.ค.) คาดตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวน แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มสายการบิน เช่น  AAV, BA (+ ภาคท่องเที่ยวและทิศทางราคาน้ำมันขาลง) วางแนวรับสำคัญที่ 1,250 จุด แนวต้าน 1,270 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ธ.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ มีมุมมองเป็นลบต่อตลาดหุ้นวันนี้ โดยคาด SET Index จะปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแรง กลุ่มสื่อสารที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้อาจจะถูกขายทำกำไรจากภาพรวมตลาดที่ไม่สดใส กลุ่มธนาคารยังถูกกดดันจากแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/15 ที่คาดว่าจะออกมาชะลอตัวจากแนวโน้ม NPL ที่สูงขึ้น

กลยุทธ์วันนี้: Seclective BUY

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: SVI (เป้า 5.30) รับผลบวกเงินบาทอ่อนค่าและแนวโน้มความต้องการกล้องวงจรปิดพุ่งสูง

ธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: ธุรกิจท่องเที่ยว ก่อสร้าง โรงพยาบาล สินเชื่อรายย่อย และพลังงานทดแทน

หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีในปีหน้า: SAWAD GUNKUL AOT EPG CK STEC และ CI

 

ด้านเทคนิค กราฟที่ดีดตัวเมื่อวานนี้ยังเป็นภาพแบบ breakdown ในระยะสั้นใต้ MA10 โดยวอลุ่มการซื้อขายบางกว่าวันก่อนหน้า ลักษณะกราฟแบบนี้แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มอาจมีการปรับลงต่อได้อีกทดสอบแนวรับต่างๆที่ 1250-1240-1235 สัญญาณ breakdown ทำให้ภาพขาลงยังต่อเนื่อง

แนวโน้มของตลาดในระยะใกล้ๆจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,240 (1,250)-1,275

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร STPI และ KC

Back to top button