
จับตา ครม. รีเซ็ตลงทุน MRO อู่ตะเภา – รวมงบรถไฟสายสีแดง “ตลิ่งชัน–ศาลายา–ศิริราช”
จับตาการประชุม ครม.วันนี้ เตรียมพิจารณาหลายวาระสำคัญด้านเศรษฐกิจ ทั้งการถอนมติศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภาในพื้นที่ EEC เพื่อเปิดทางประมูลใหม่ รวมถึงข้อเสนอรวมงบโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน–ศาลายา–ศิริราช และการขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้าในเขตเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 มิ.ย.68) เวลา 10:00 น. การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเตรียมพิจารณาวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการปรับแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในหลายด้าน
วาระเด่นที่ได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจและนักลงทุน คือ ข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ขอยกเลิกมติ ครม. ปี 2561 ที่เคยเห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เป็นผู้ดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อเปิดทางให้มีการจัดหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ผ่านกระบวนการประมูล โดยคาดว่าจะเพิ่มความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้เอกชนรายอื่นร่วมแข่งขัน
ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติรวมงบประมาณและสัญญาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน–ศาลายา และตลิ่งชัน–ศิริราช พร้อมเพิ่มสถานีอีก 3 แห่ง ได้แก่ สะพานพระราม 6 บางกรวย–การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบ้านฉิมพลี โดยรวมเป็นสัญญาเดียว จะช่วยลดกรอบวงเงินจาก 15,286 ล้านบาท เหลือ 15,176 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้ประกวดราคาได้ภายในปีนี้ และเริ่มก่อสร้างปี 2569
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย เสนอขออนุมัติโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้าระยะที่ 13 ส่วนที่ 2 ของการไฟฟ้านครหลวง เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานในเขตเมืองที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
ส่วนวาระอื่นที่เกี่ยวข้องกับภาคเศรษฐกิจ ได้แก่
กระทรวงพลังงาน เสนอร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการขนส่งน้ำมันโดยถังเคลื่อนที่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย
กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างประกาศห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเส้นเหล็กเสริมคอนกรีตในทุกพื้นที่
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอยกเลิกมติปี 2544 ที่จำกัดการใช้พื้นที่ป่าสงวนเพื่อการทำเหมืองแร่ รวมถึงเสนอผลการประชุม COP29
กระทรวงการคลัง เสนอรายงานการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2567 และรายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)