
“ศุภจี” ย้ำชัด! “สหรัฐ” แยกแยะ “ปมขัดแย้งกัมพูชา” ไม่กระทบดีลการค้า
รมว.พาณิชย์ ยืนยัน เจรจาการค้าระหว่างไทย–สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าตามแผน แม้จะมีความตึงเครียดในความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา โดยสหรัฐฯ ระบุชัด “แยกการเมืองออกจากการค้า” ไม่ใช้สถานการณ์ชายแดน เป็นปัจจัยกำหนดทิศทางเศรษฐกิจทวิภาคี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 พ.ย. 68) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงข้อกังวลกรณีความขัดแย้งไทย–กัมพูชาว่า อาจกระทบต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หรือไม่ โดยยืนยันว่า การหารือทางการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ
นางศุภจี ระบุต่อว่า ประเด็นแรกที่ต้องทำความเข้าใจ คือ กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงร่วม (Joint Declaration) ก่อน และเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ฝ่ายไทยเกิดความสูญเสีย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่สามารถยอมรับได้ พร้อมเชื่อว่ารัฐบาลของทุกประเทศย่อมไม่สามารถยอมรับการกระทำในลักษณะนี้ได้เช่นเดียวกัน
ฝ่ายสหรัฐฯ จึงควรเข้าใจข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ และไม่ควรนำสถานการณ์ดังกล่าวมาเป็นเหตุผลในการชะลอหรือหยุดการเจรจาการค้ากับไทย
ซึ่งจากการพบปะหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในการประชุมเอเปค (Apec 2025) ที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ แยกประเด็นทางการเมืองออกจากการค้า และยังคงมีเจตนารมณ์ที่จะผลักดันให้การเจรจาสำเร็จภายในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับท่าทีของไทย และความต้องการของภาคเอกชนทั้งสองประเทศที่ต้องการเห็นความชัดเจนในการค้าและการลงทุน

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายเอกนิติ นิติทัณฑประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับ Mr. Ted Osius Senior Vice President and Regional Managing Director และคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) ในโอกาสเยือนประเทศไทย ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมหารือกับคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ภายใต้ USABC โดยทุกฝ่ายมีมุมมองตรงกันว่า ไทยเป็นประเทศสำคัญในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง นักธุรกิจสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทเชิงรุกของไทยในการขยายตลาดการค้า ผ่านการเจรจาเปิดตลาดและข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)
นอกจากนี้ ที่ประชุมดังกล่าวยังได้หารือถึงประเด็น นโยบายภาษีของสหรัฐฯ (US Tariffs) ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ มองว่า เป็นประเด็นที่มีทั้ง “โอกาสและความท้าทาย” ต่อบริษัทอเมริกันเอง โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีฐานการผลิตหรือห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย โดยไทยยังคงเป็นฐานการผลิตสำคัญและเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ
นางศุภจี ระบุเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าหลักของไทย และรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศคู่ค้าที่เป็นมิตร พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายเร่งขยายตลาดใหม่ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการเจรจาเปิดตลาด การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยใช้ประโยชน์จากผลการเจรจาและกิจกรรมส่งเสริมการค้า”
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์จะยังคงเดินหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์ของภาคการส่งออกของไทย ควบคู่กับการแสวงหาตลาดใหม่ และส่งเสริมสินค้าไทยในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

